เรื่องที่ 3 พฤติกรรมที่นําไปสูการมีเพศสัมพันธ

ปจจุบันปญหาจากพฤติกรรมทางเพศที่ไมเหมาะสมของวัยรุนมีหลายลักษณะ เชน
การมีเพศสัมพันธกอนวัยอันควร การติดเชื้อเอดสและโรคติดตอทางเพศสัมพันธ
รวมทั้งการตั้งครรภ
ที่ไมพึงประสงคในวัยรุนทั้งที่มาจากพฤติกรรมทางเพศที่ไมเหมาะสมโดยตรง
และมาจากอุบัติภัยทาง
เพศนับเปนปญหาทางเพศของวัยรุนที่อยูในอันดับตน
ๆ
อยางไรก็ตาม
มีวัยรุนที่จับคูกันบางคูไมมีเพศสัมพันธกัน ซึ่งมีสาเหตุหลายประการ
เชน พอแมดูแลเอาใจใสอบรมสั่งสอนดี
พอแมติดตามดูแลอยางใกลชิด ไมเปดโอกาสใหทั้งคูไดอยูในสถานการณที่เสี่ยงตอการมีเพศสัมพันธ
วัยรุนคิดไปขางหนาเกิดความเกรงกลัววาจะมีปญหาตาง ๆตามมามากมาย มีความละอายใจและรูสึกวาผิด
กลัวเสียชื่อเสียง และกลัวคนอื่นจะรู ไมมีโอกาสที่จะไดกระทํา มีความยับยั้งชั่งใจ
เปนตน
การจับคูกันนั้นสวนใหญจะทําใหการเรียนแยลง
การมีคูรักไมใชสัญลักษณของการ
ประสบความสําเร็จในชีวิต ไมใชแฟชั่น
หากวัยรุนคนใดยังไมมีคูรักก็ไมควรรูสึกวาตัวเองดอยกวา
เพื่อนที่มีคนรัก
ไมจําเปนที่จะตองคบกับใครสักคนเปนคูรัก เพียงเพราะตองการใหตนเองเหมือน
เพื่อนคนอื่น ๆ เทานั้นความคาดหวังในเรื่องความรักของผูหญิงและผูชายที่แตกตางกันนั้น
เปนสิ่งที่วัยรุนที่จับคูกันไมควรมองขาม
เพราะจะทําใหรูวาหญิงและชายจะปฏิบัติตอคนรักตางกัน ผูชายจะคิดถึงเรื่องการไดสัมผัส
ลวงเกินจนถึงขั้นมีเพศสัมพันธ จึงเปนสาเหตุหนึ่งที่จะทําใหผูหญิงตองเสียความบริสุทธิ์กอนวัยอันควร
และมักไมคอยเต็มใจ ซึ่งวัยรุนหญิงจะตองระวังใหดีในเรื่องนี้
1. พฤติกรรมที่เสี่ยงตอการมีเพศสัมพันธ
วัยรุนเปนวัยที่เกิดความเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการอยางรวดเร็วในเรื่องเพศ บางคน
จึงเกิดความสนใจในเพศตรงขาม
สนใจในเรื่องเพศ การจับคูเปนคูรักกัน การเกิดอารมณทางเพศ การดูสื่อลามก การมีเพศสัมพันธกับคูรัก
การมีสัมพันธกับหญิงขายบริการทางเพศ หรือการขายบริการทางเพศเมื่อเปนเชนนี้ผลเสียที่ตามมา ไดแก
การมีเพศสัมพันธกอนวัยอันควร ทําใหเกิดความวิตกกังวล
เสียการเรียนเพราะจะสนใจการเรียนนอยลง เกิดการตั้งครรภที่ไมพึงประสงค
การทําแทงปญหาลูกไมมีพอ ทารกถูกทอดทิ้ง
โรคติดตอทางเพศสัมพันธ โรคเอดส เปนตน
เหตุและผลดังกลาวขางตนนี้
มักจะเริ่มจากตัวของวัยรุนเองที่มีพฤติกรรมเสี่ยงตอการ
มีเพศสัมพันธ ซึ่งมีดังนี้
เหตุและผลดังกลาวขางตนนี้
มักจะเริ่มจากตัวของวัยรุนเองที่มีพฤติกรรมเสี่ยงตอการ
มีเพศสัมพันธ ซึ่งมีดังนี้
1. สนใจเรื่องเพศมาก
ปกติวัยรุนก็จะสนใจเรื่องเพศอยูแลวเพราะเปนธรรมชาติของ
วัย
แตถาหมกมุนกับเรื่องนี้มากเกินไป
และโอกาสหรือสถานการณเอื้ออํานวยวัยรุนอาจมีเพศสัมพันธโดยไมคิดไมไดตัดสินใจหรือไมไดวางแผนลวงหนา
คือปลอยใหเปนไปตามความตองการและอาจไมคิดถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นภายหลัง
2. มีความหมกมุนในเรื่องเพศ
มีวัยรุนจํานวนหนึ่งโดยเฉพาะวัยรุนชายที่หมกมุนใน
เรื่องเพศมากเกินไปอาจมีการสําเร็จความใครดวยตนเองบอยครั้ง
โดยไมพยายามหลีกเลี่ยง หรือ
พยายามจัดการกับอารมณทางเพศ
ในผูหญิงก็อาจมีบางแตไมมากเทาผูชาย บุคคลประเภทนี้มีความเสี่ยงตออาการมีเพศสัมพันธ
3. ชอบถูกเนื้อตองตัวเพศตรงขาม
ผูชายมักจะยินดีที่ไดถูกเนื้อตองตัวผูหญิงหรือให
ผูหญิงมาถูกเนื้อตองตัวตนเอง
สวนผูหญิงที่คิดเชนเดียวกับผูชายนี้ก็มีบาง การถูกเนื้อตองตัวกันทําใหเกิดอารมณทางเพศได
ถามีโอกาสหรือสถานการณที่เอื้ออํานวยก็อาจถึงขั้นการมีเพศสัมพันธกันได
4. คิดวาการมีเพศสัมพันธไมใชเรื่องเสียหาย
ไมวาชายหรือหญิงที่คิดเชนนี้จะเปนผู
ที่เสี่ยงตอการมีเพศสัมพันธมาก
ผูชายมักจะคิดเชนนี้ ซึ่งเปนนิสัยที่ติดตัวของผูชายมาอยูแลว แตถาผูหญิงคิดเชนนี้ดวยก็นับวาเปนการสนับสนุนใหผูชายสมหวังขึ้น
จนเปนเปนปญหาสําคัญปญหาหนึ่งในครอบครัวและสังคมไทย
เพราะเปนความคิดที่นําไปสูการมีเพศสัมพันธกอนวัยอันควร ซึ่งจะกอใหเกิดปญหาตามมามากมาย
5. ดูสื่อลามก
ปจจุบันนี้มีสื่อลามกขายกันมากมายตามทองตลาด วัยรุนหลายคนรูวา
แหลงซื้อขายอยูที่ใด
การดูสื่อลามกประเภทนี้ทําใหผูดูเกิดอารมณทางเพศ วัยรุนเปนวัยที่อยากรูอยากลอง
เมื่อดูแลวบางครั้งอาจอยากทดลองทําตามคูพระนางในสื่อลามกนั้น
ดังวัยรุนที่มีขาวลงหนาหนังสือพิมพวาไปขมขืนหรือไปมั่วสุมมีเพศสัมพันธกันแลวรับสารภาพวาทําตามอยางในสื่อลามกที่เคยดู
6. เปนคนเจาชู
คนเจาชูคนที่ชอบมีคูรักหรือสามีภรรยามากกวา 1 คน
หรือมีไป
เรื่อย ๆ ตามความพอใจ
วัยรุนที่เปนคนเจาชูจะมีใจกลาในเรื่องนี้ และขาดความรับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองกระทําไมรักใครจริง
ถาเบื่อก็พรอมที่จะทอดทิ้ง บุคคลประเภทนี้จะมีเพศสัมพันธงาย ๆ ไมคิดอะไรมาก
ผูหญิงเปนฝายที่ตองรับภาระในสิ่งที่ทั้งคูไดกระทําลงไป เชน
เปนฝายตั้งครรภอาจตองไปทําแทง หรือตองคลอดลูกแลวเลี้ยงลูกตามลําพัง
เปนตน จึงตองระวังคนเจาชูและตองไมเปนคนเจาชู้
7. เคยมีประสบการณทางเพศมาแลว
ไมวาจะเปนผูชายหรือผูหญิงที่เคยมี
ประสบการณในการมีเพศสัมพันธมาแลว
ในครั้งตอ ๆ ไปมันจะไมคิดมาก ใจกลาขึ้น ไมกลัว
หรือไมก็ติดใจในเพศรสจึงเปนมูลเหตุที่ทําใหเกิดความเสี่ยงตอการมีเพศสัมพันธซ้ําไดอีก
8. เสพสารเสพติด
ผูที่เสพสารเสพติดจะเกิดอาการมึนเมาเคลิบเคลิ้ม ขาดความรูสึก
ผิดชอบชั่วดี ครองสติไมได
จึงมักทําอะไรลงไปแบบไมคิดอะไรมากหรืองง ๆ ไมคอยรูตัว ดังขาวที่พบเห็นบอย ๆ
วาวัยรุนไปจัดปารตี้ยาอี ยาบา หรือไมก็ไปดื่มแอลกอฮอล พอมึนเมาเสพสารเสพติดหรือยอมมีเพศสัมพันธเพื่อแลกกับสารเสพติดในกรณีที่ติดสารเสพติดแลว
9. ขาดความไตรตรอง
บุคคลประเภทนี้มักไมคิดถึงผลที่จะตามมาหรือผลกระทบ
หลังการมีเพศสัมพันธวาจะเปนอยางไร
เปนคนแกปญหาเฉพาะหนาไปวันหนึ่ง ไมคิดถึงอนาคตวาเปนอยางไร ตัดสินใจโดยขาดสติ
10. อยากรูอยากลอง
วัยรุนเปนวัยที่อยากรูอยากลองอยูแลว แตถาอยากรูอยากลอง
เรื่องเพศนั้นนับวาเปนอันตราย
ปจจัยที่กระตุนใหอยากรูอยากลองนอกจากจะมาจากตนเองแลว ยังอาจมาจากปจจัยอื่น ๆ เชน
เพื่อนชักชวน อานหนังสือลามก
2.
การหลีกเลี่ยงและปองกันตนเองจากสถานการณการเสี่ยงตอการตั้งครรภโดยไมตั้งใจ
มีผูหญิงจํานวนไมนอยที่ตั้งครรภโดยไมตั้งใจ
ทั้งนี้เพราะไมคาดคิดมากอนวาจะมี
เพศสัมพันธกับผูชายซึ่งอาจเปนคูรักของตนเอง
เปนเพื่อน คนแปลกหนา พอเลี้ยง หรือแมแตญาติของตน
และไมมีการปองกันการตั้งครรภแตอยางใด
ดังนั้นผูหญิงควรเรียนรูถึงการหลีกเลี่ยงและปองกันตนเองจากสถานการณเสี่ยงตอการตั้งครรภโดยไมตั้งใจ
ซึ่งมีขอแนะนําดังนี้
1. ในกรณีเมื่ออยูกับคูรักของตนเอง ควรปฏิบัติดังนี้
1.1 ไมยอมใหคูรักไดสัมผัส จับมือ
โอบกอด ถาถูกกระทําเชนนี้ควรแสดงทาที
ไมพอใจและปฏิเสธการกระทําดังกลาวอยางจริงจัง
มิฉะนั้นอาจนําไปสูการมีเพศสัมพันธเนื่องจากสภาพแวดลอมเหมาะสมและเปนใจ
1.2 ไมอยูในที่ลับตาคนสองตอสอง
เพราะคูรักอาจจะลวงเกินเราได และยิ่งเรา
มีใจชอบฝายชายดวยก็อาจจะยินยอมจนถึงขั้นมีเพศสัมพันธได
1.3 ไมไปเที่ยวกันแบบคางคืน
เพราะการคางคืนจะเปนการเปดโอกาสใหฝาย
ชายลวงละเมิดทางเพศได
1.4 ไมควรดูสื่อลามกโดยเฉพาะกับคูรัก
เพราะจะทําใหทั้งสองฝายเกิดอารมณ
ทางเพศและนําไปสูการมีพฤติกรรมทางเพศที่ไมเหมาะสม
1.5 การไปเที่ยวในงานวันสําคัญตาง ๆ
เชน วันวาเลนไทน วันลอยกระทง วัน
ขึ้นปใหม
ที่เปนการเที่ยวในเวลากลางคืน
แลวจะไปตอกันในสถานที่ที่อาจจะมีเพศสัมพันธกันได
ดังนั้นการไปเที่ยวกับคูรักในวันสําคัญดังกลาวควรระมัดระวังตัวใหดี
ถาเราคิดวาไมนาไววางใจก็ไมควรไปโดยหาทางปฏิเสธอยางนุมนวล
1.6
การไปเที่ยวงานสังสรรคหรือตามสถานบันเทิงกับคนรักควรระมัดระวังตัว
ดวย
เพราะอาจดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลแลวทําใหมึนเมาไมรูสึกตัว
1.7 อยาใจออนถาถูกขอที่จะมีเพศสัมพันธดวย
อยาหลงคารมเขาเปนอันขาด
และไมตองกลัวเขาโกรธ
รักษาความบริสุทธิ์ของเราดีกวา หากพลาดพลั้งไปแลวก็ควรระวังอยาใหเกิดขึ้นอีก
2. ในกรณีเมื่ออยูกับเพื่อนชาย
ควรปฏิบัติดังนี้
2.1
อยาใหมาถูกเนื้อตองตัวโดยไมจําเปน เพราะถาวันใดที่เพื่อนชายมีโอกาส
ผูหญิงอาจพลาดทาเสียทีได
2.2 อยาไวใจใครมากนัก
มีเพื่อนหลายคนที่หลอกพาเพื่อนไปขมขืน บางรายให
เพื่อนคนอื่น ๆ
ขมขืนดวยตามที่มีขาวใหพบเห็นอยูบอย ๆ
2.3 ไมไปเที่ยวแบบคางคืน
ถึงแมจะไปเปนหมูคณะก็ตองระมัดระวัง
2.4 การไปเที่ยวตามสถานบันเทิงแลวกลับดึกอาจเปนอันตราย
ถามีเพื่อนอาสา
ไปสงบานก็ควรระวัง
เพราะอาจพาไปที่อื่นได
3. ในกรณีเมื่ออยูกับคนแปลกหนา
ควรปฏิบัติดังนี้
3.1 อยาไวใจคนแปลกหนาเปนอันขาด
เพราะยังไมรูจักนิสัยใจคอเขาดีพอ ถา
หลงเชื่ออาจถูกเขาหลอกได
โดยเฉพาะถาพบกันในสถานบันเทิงเริงรมยเขาอาจจะมองเราวาเปน
ผูหญิงที่รักสนุก
คงจะมีเพศสัมพันธดวยไมยาก
3.2
ไมควรเดินทางไปในที่เปลี่ยวยามค่ําคืน เพราะมีผูหญิงถูกคนรายลักพาตัว
ไปขมขืนมาหลายรายจนนับไมถวนแลวในสถานการณเชนนี้
3.3
อยาเชื่อคนที่รูจักกันทางอินเทอรเน็ต ถึงแมจะคุยกันจนเหมือนรูจักกันดีแลวก็
ตาม เพราะยังไมเคยเห็นหนากัน
ก็ยังคงเปนคนแปลกหนาอยูดี หญิงสาวหลายรายที่ถูกคนที่รูจักกันทางอินเทอรเน็ตหลอกไปขมขืน
บางรายมีการถายรูปไวเพื่อขมขูและตอรองเรื่องอื่น ๆ อีกดวย
4. ในกรณีเมื่ออยูกับพอเลี้ยงหรือญาติ
ผูหญิงที่ถูกคนใกลชิดในครอบครัวขมขืนนั้น
มีมาก และมักไมยอมบอกใคร
บางรายถูกขมขืนมานานนับป บางครั้งเกิดการตั้งครรภ เพราะคนในครอบครัวนั้นใกลชิดเห็นกันอยูทุกวันหรือพบกันบอย
ไวใจกันมาก ในเรื่องนี้ผูหญิงควรปฏิบัติตนดังนี้
4.1 ใหสังเกตการณสัมผัสของบุคคลเหลานั้นวา
สัมผัสดวยความเอ็นดูแบบ
ลูกหลานหรือแบบชูสาว
ถามีการสัมผัสนาน ลูบคลํา จับตองของสงวน ตองระมัดระวังอยาเขาใกล
4.2
ควรนอนในหองที่มิดชิดใสกลอนหรือล็อคกุญแจใหเรียบรอย
4.3
ถาบุคคลเหลานั้นมึนเมาอยาไวใจ เพราะทําใหขาดสติ และกระทําในสิ่งที่
ไมคาดคิดได
4.4 การแตงตัวอยูบาน
การอาบน้ําตองกระทําอยางมิดชิด อยาเปดเผยเรือนราง
มากนัก
เพราะอาจเปนการยั่วยุอารมณทางเพศแกบุคคลเหลานั้นได้ขอควรคิดเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธมีผูหญิงบางคนที่คิดวาการมีเพศสัมพันธเปนเรื่องปกติไมใชเรื่องผิด
ไมรับรูถึง
ขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมไทย
จึงควรตรวจสอบตนเองวามีความรับผิดชอบตอตนเองและสังคมเพียงใด
โดยตอบคําถามเหลานี้ใหไดเสียกอนที่จะคิดมีเพศสัมพันธ
1. ถายินยอมมีเพศสัมพันธ
เราจะยอมรับกับผลที่จะตามมาไดเพียงใด เชน คําครหา
ของคนในสังคม ความกลัวคนอื่นจะลวงรู
การตั้งครรภ การถูกผูชายทิ้งหลังจากไดเสียกันแลว การเสียความบริสุทธิ์ไปแลวผูชายคนนี้คือคนที่จะเปนคูชีวิตของเราหรือไม
เปนตน
2. เมื่อเรายังไมพรอมที่จะมีลูกจะปองกันตนเองอยางไร
รูวิธีปองกันการตั้งครรภ
เพียงใด เมื่อปองกันแลวจะผิดพลาดไดหรือไม
ถาพลาดมีลูกขึ้นมาจะทําอยางไร ผูชายจะรับผิดชอบหรือไม ตนเองไมอับอายคนอื่น ๆ
หรือถาจะตองไปทําแทง การทําแทงมีอันตรายเพียงใด
3. การตั้งครรภที่ไมพึงประสงคในวัยรุน
การตั้งครรภที่ไมพึงประสงคในวัยรุน
หมายถึง การตั้งครรภที่เกิดขึ้นในวัยรุนเพศ
หญิงซึ่งเปนผลสืบเนื่องมาจากการมีเพศสัมพันธที่เกิดขึ้นโดยไมไดตั้งใจ
โดยอาจมีสาเหตุสําคัญมาจากพฤติกรรมทางเพศที่ไมเหมาะสมของวัยรุน
หรืออาจเกิดจากการถูกขมขืนกระทําชําเรา
3.1 ปญหาและผลกระทบของการตั้งครรภที่ไมพึงประสงคในวัยรุน
ปญหาทางดานจิตใจและอารมณ
วัยรุนที่มีปญหาการตั้งครรภที่ไมพึงประสงค
มักมีความรูสึกวาตนเองทําผิด
เกิดความละอายใจ และมีความคิดวาไมมีใครรักใครตองการอีก ซึ่งบางคนอาจแสดงพฤติกรรมทางเพศที่ไมเหมาะสมและรุนแรงขึ้น
หรือบางคนอาจไมแสดงออกและมักเก็บกดอยากทําลายชีวิตตนเอง ฯลฯ
ซึ่งภาวะทางจิตใจและอารมณของวัยรุนที่ตั้งครรภโดยไมพึงประสงคนี้จะมีมากหรือนอยขึ้นอยูกับการยอมรับและความเขาใจของคนในครอบครัว
ถาครอบครัวยอมรับเขาใจ และใหอภัย
ปญหาทางดานจิตใจและอารมณก็จะลดนอยลงไดปญหาทางดานสุขภาพ ปญหาที่มักพบ คือ
ปญหาโรคเอดสและโรคติดตอ
ทางเพศสัมพันธ
การมีเพศสัมพันธโดยไมไดมีการปองกันและคุมกําเนิดยอมมีโอกาสใหวัยรุนเพศ
หญิงไดรับเชื้อเอดส
หรือโรคติดตอทางเพศสัมพันธจากฝายชายในอัตราเสี่ยงที่สูง ปญหาทางทําแทง 2)
สงผลกระทบตอครอบครัวของวัยรุนที่ตั้งครรภโดยไมพึงประสงค มัก
พบเสมอวาเมื่อวัยรุนเพศหญิงตั้งครรภโดยไมพึงประสงคขึ้น
วัยรุนของเพศชายมักจะไมแสดงความรับผิดชอบตอสิ่งที่เกิดขึ้นภาระความผิดชอบจึงตกเปนของฝายหญิงและครอบครัวเพียงฝายเดียว
ถาครอบครัวฝายหญิงมีความเขาใจและใหอภัยตอความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
และครอบครัวยังพรอมที่จะรวมแกปญหาการเลี้ยงดูเด็กที่จะเกิดขึ้นได
ก็จะชวยลดปญหาทางดานอารมณและจิตใจของวัยรุนเพศหญิงลงไดแตในทางตรงขาม
หากครอบครัวของวัยรุนเพศหญิงไมสามารถยอมรับปญหาที่เกิดขึ้นดังกลาวก็อาจสงผลใหเกิดปญหาตาง ๆ
ตามมาได
3) สงผลกระทบตอสังคมและประเทศชาติ
การตั้งครรภที่ไมพึงประสงคของ
วัยรุนทําใหเกิดปญหาทางสังคมตาง ๆ
ตามมาดังที่ไดกลาวมาแลว นอกจากนี้ ประเทศชาติตองสูญเสียงบประมาณบางสวนที่ตองนํามาใชเพื่อการบําบัดรักษา
ดูแลสุขภาพของวัยรุนเพศหญิงที่ตั้งครรภโดยไมพึงประสงค
ตองจัดงบประมาณในการเลี้ยงดูประชากรสวนหนึ่งที่เกิดจากผลพวงของปญหาดังกลาว
3.2
การปองกันการตั้งครรภที่ไมพึงประสงคในวัยรุน
การปองกันมีแนวทางในการปฏิบัติ ดังนี้
1) ตองรูจักหลีกเลี่ยงสถานการณที่เอื้ออํานวยใหเกิดการมีเพศสัมพันธ
มัก
พบวาการมีเพศสัมพันธที่ไมไดตั้งใจของวัยรุนมักจะเกิดจากสถานการณหรือบรรยากาศที่เอื้อใหเกิดโอกาสตอการมีเพศสัมพันธ เชน
การอยูตามลําพังสองตอสองในที่ลับตาคน หรือการเขารวมในกิจกรรมพบปะสังสรรคที่มีการดื่มเครื่องผสมแอลกอฮอล
เปนตน
2) ตองรูจักใชทักษะในการปฏิเสธเพื่อแกไขสถานการณเสี่ยงตอการมี
เพศสัมพันธ
วิธีการหลีกเลี่ยงและแกไขสถานการณดังกลาว ฝายหญิงตองนําทักษะการปฏิเสธไปใช
ซึ่งการปฏิเสธของฝายหญิงจะเปนสัญญาณเตือนใหฝายชายหยุดแสดงพฤติกรรมทางเพศที่ไมเหมาะสมออกมา แนวทางในการใชคําพูดที่เปนทักษะของการปฏิเสธ
มีหลายขอความ เชน “หยุดนะ อยาทําแบบนี้” ฉันไมชอบหยุดนะ” “อยานะ ฉันจะตะโกนใหลั่นเลย”
“คุณไมมีสิทธิ์ที่จะทําแบบนี้” และอื่น ๆ
ตามความเหมาะสมซึ่งคําพูดที่เปนทักษะในการปฏิเสธมักจะมีคําวา “ไม” “อยา” หรือ “หยุด”
3) ตองรูจักใหเกียรติซึ่งกันและกัน
การที่ฝายหญิงและฝายชายนําหลักความ
เสมอภาคทางเพศ
และการวางตัวที่เหมาะสมตอเพศตรงขามมาใช ถือวาเปนการใหเกียรติซึ่งกันและกัน
ซึ่งจะชวยปองกันอารมณในขณะพบปะพูดคุยกันไมใหพัฒนาไปสูความตองการทางเพศได
4) ตองระมัดระวังในเรื่องการแตงกาย
ปจจุบันรูปแบบการแตงกายของวัยรุน
โดยเฉพาะวัยรุนเพศหญิงมักนิยมสวมเสื้อผาที่รัดรูปหรือนอยชื้นเกินไป
ซึ่งการแตงกายดังกลาวจะทําใหเห็นรูปรางสัดสวนชัดเจนขึ้น
การแตงกายในลักษณะดังกลาวจะสงผลเราใหเพศตรงขามเกิดอารมณและขาดความยั้งคิด
อาจนําไปสูการแสดงพฤติกรรมการลวงละเมิดทางเพศที่เปนอันตราย
จนถึงการตั้งครรภที่ไมพึงประสงคในเพศหญิงได
5) ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางตามลําพังในยามวิกาลหรือในเสนทางที่เปลี่ยว
จากสถิติของวัยรุนเพศหญิงพบวา
อันตรายที่ไดรับจากการถูกขมขืนมักเกิดขึ้นในยามวิกาลหรือในเสนทางที่เปลี่ยวผูคนสัญจรนอย
ดังนั้น วิธีการปองกันที่ดีที่สุดหากจําเปนจะตองเดินทางใน
สถานการณดังกลาว
ควรจะมีเพื่อนหรือญาติรวมเดินทางไปดวยเพื่อปองกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
4. ความรูเบื้องตองเกี่ยวกับกฎหมายคุมครองสิทธิผูถูกลวงละเมิดทางเพศ
กฎหมายไดระบุฐานความผิดเกี่ยวกับการถูกลวงละเมิดทางเพศไว
2 ลักษณะ ดังนี้
4.1 ความผิดฐานขมขืนกระทําชําเรา
ผูที่ขมขืนกระทําชําเราเด็กหญิงอายุไมเกิน
15 ป ซึ่งมิใชภรรยาตน โดย
เด็กหญิงนั้นจะยินยอมหรือไมก็ตาม
ตองระวางโทษจําคุกตั้งแต 4-20 ป
และปรับตั้งแต 8,000-40,000บาท (ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 277 วรรคหนึ่ง)
ถาการกระทําความผิดตามวรรคแรก
เปนการกระทําแกเด็กหญิงอายุไมเกิน
13 ป ตองระวางโทษจําคุกตั้งแต 7 ป ถึง 20 ป และปรับตั้งแต 14,000-40,000 บาท หรือจําคุกตลอดชีวิต (ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 277 วรรคสอง)
ถาการกระทําผิดตามวรรคแรกหรือวรรคสอง
ไดกระทําโดยรวมกระทํา
ความผิดดวยกันอันมีลักษณะเปนการโทรมเด็กหญิง
(คือรวมกันกระทําความผิดตั้งแต 2
คนขึ้นไป) โดยเด็กหญิงนั้นไมยินยอม
หรือไดกระทําโดยมีอาวุธ เชน อาวุธปน หรือวัตถุระเบิด หรือโดยการใชอาวุธอื่น ๆ
ตองระวางโทษจําคุกตลอดชีวิต (ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 277 วรรคสาม)แตมีขอยกเวน คือ
ถาการกระทําดังกลาวขางตนเปนการกระทําที่ชายกระทํา
กับเด็กหญิงอายุมากกวา 13 ป แตไมเกิน 15 ป โดยเด็กหญิงนั้นยินยอม
และภายหลังศาลอนุญาตใหสมรสกัน ผูกระทําผิดไมตองรับโทษ
และถาศาลอนุญาตใหสมรสกันในระหวางที่ผูกระทําผิดกําลังรับโทษในความผิดนั้นอยู
ศาลตองสั่งปลอยผูกระทําความผิดนั้นไป (ประมวลกฎหมายอาญามาตรา277 วรรค ถาเปนการกระทําชําเราเด็กหญิงอายุยังไมเกิน
15 ป ซึ่งมิใชภรรยาของตน โดยเด็กหญิงนั้นจะยินยอมหรือไมก็ตาม
หรือเปนการกระทําแกเด็กอายุไมกิน 13 ป
แลวเปนเหตุใหเด็กหญิงไดรับอันตรายสาหัส เชน
ไดรับบาดเจ็บสาหัส ผูกระทําตองระวางโทษตั้งแต 15 ป ถึง 20 ปและปรับตั้งแต 30,000-40,000 บาท หรือจําคุกตลอดชีวิต (ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 277 ทวิ (1) )และหากเด็กนั้นถึงแกความตาย
ผูกระทําตองระวางโทษประหารชีวิต หรือจําคุกตลอดชีวิต (ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 277 ทวิ (2) )
หากการกระทําชําเราเด็กหญิงอายุยังไมเกิน
3 ป หรือการกระทําแกเด็กหญิง
อายุยังไมเกิน 15 ป ดังกลาวขางตน ไดรวมกระทําความผิดดวยกันอันมีลักษณะเปนการโทรมหญิงหรือกระทําโดยมีอาวุธปน
หรือวัตถุระเบิดหรือโดยการใชอาวุธ และเปนเหตุใหเด็กหญิงผูถูกระทําไดรับอันตรายสาหัส
ผูกระทําตองระวางโทษประหารชีวิต หรือจําคุกตลอดชีวิต และหากเด็กหญิงที่ถูกกระทําถึงแกความตาย ผูกระทําตองไดรับโทษประหารชีวิต
และหากเด็กหญิงที่ถูกกระทําถึงแกความตาย
ผูกระทําตองไดรับโทษประหารชีวิต (ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 277
ตรี)
4.2 ความผิดฐานกระทําอนาจารตอเด็ก
4.2 ความผิดฐานกระทําอนาจารตอเด็ก
ผูที่กระทําอนาจารแกบุคคลอายุต่ํากวา
15 ป โดยขูเข็ญดวยประการใด ๆ โดย
ใชกําลังประทุษราย
โดยบุคคลนั้นอยูในภาวะที่ไมสามารถขัดขืนได หรือโดยทําใหบุคคลนั้นเขาใจผิดวาตนเปนบุคคลอื่นตองระวางโทษจําคุกไมเกิน
10 ป หรือปรับไมเกิน 20,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ (ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 279 วรรคหนึ่ง)
ถาการกระทําอนาจารนั้น กระทําตอเด็กอายุไมเกิน
15 ป และผูกระทําผิดได
กระทําโดยการขูเข็ญดวยประการใด ๆ
โดยใชกําลังประทุษราย โดยบุคคลนั้นอยูในภาวะที่ไมสามารถขัดขืนได
หรือโดยทําใหบุคคลนั้นเขาใจผิดวาตนเปนบุคคลอื่น มีโทษหนักคือ
ผูกระทําตองระวางโทษจําคุกไมเกิน 15 ป หรือปรับไมเกิน 30,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
(ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 279 วรรคสอง) หากการกระทําดังกลาวขางตน
เปนเหตุใหผูถูกกระทําไดรับอันตรายสาหัสผูกระทําอนาจารตองระวางโทษจําคุกตั้งแต
5 ป ถึง 20 ป และปรับตั้งแต 10,000-40,000 บาท และหากผูถูกกระทําถึงแกความตาย
ผูกระทําตองระวางโทษประหารชีวิต หรือจําคุกตลอดชีวิต (ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 280)
การขมขืนกระทําชําเราผูเยาว
และการกระทําอนาจารแกเด็กอายุไมเกิน 15 ป
โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไมก็ตาม
เปนความผิดอาญาแผนดิน ไมสามารถยอมความกันไดแตถาเปนการขมขืนกระทําชําเราหญิงที่มิใชภรรยาตน
โดยเด็กหญิงนั้น
ไมใชผูเยาว และการกระทําอนาจารแกบุคคลอายุต่ํากวา
15 ป ทั้งสองกรณีนี้ ถามิไดกระทําตอหนาธารกํานัล คือในที่เปดเผยและไมเปนสาเหตุใหผูถูกกระทําไดรับอันตรายสาหัสหรือถึงแกความตาย
หรือมิไดเปนการกระทําแกผูสืบสันดาน คือ ลูก หลาน
เหลนของตนเอง มิใชเปนการกระทําตอศิษยซึ่งอยูในความดูแล มิใชเปนการกระทําตอผูอยูในความควบคุมตามหนาที่ราชการ
หรือมิใชเปนการกระทําตอผูอยูในความพิทักษหรือในความอนุบาล
กรณีทั้งหมดที่กลาวมาเปนความผิดอันยอมความได คือเปนกรณีที่ผูเสียหายหรือผูถูกกระทําและผูกระทําความผิดตกลงหรือสมัครใจไมเอาความตอกัน
ก็เปนอันเลิกแลวตอกัน
(ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 281)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น