เรื่องที่ 2 การเปลี่ยนแปลงเมื่อเขาวัยหนุมสาว
พัฒนาการทางเพศและการปรับตัวเมื่อเขาสูวัยรุน
วัยรุนจะมีการเปลี่ยนแปลงทางรางกายอยางรวดเร็ว
และมีพัฒนาการทางเพศควบคู
กันไปดวย
โดยเพศชายและเพศหญิงจะมีความแตกตางกัน
การเปลี่ยนแปลงทางรางกายของเพศหญิง
การเขาสูชวงวัยรุนของเด็กหญิงจะเกิดขึ้นเร็วกวาเด็กชาย
คือ จะเริ่มขึ้นเมื่ออายุประมาณ 11-13 ป
ตอมใตสมองจะผลิตฮอรโมนที่ไปกระตุนการเจริญเติบโต และกระตุนการทํางานของรังไขใหสรางเซลลสืบพันธุและผลิตฮอรโมนเพศหญิง
ในชวงนี้วัยรุนหญิงจะมีการเจริญเติบโตอยางรวดเร็ว
สวนสูงและนําหนักเพิ่มมากขึ้น อวัยวะเพศโตขึ้น มีขนขึ้นบริเวณหัวเหนาและรักแร
เอวคอดสะโพกผายออก เตานมโตขึ้น อาจมีสิวขึ้นตามใบหนา สวนมดลูก รังไข
และอวัยวะที่เกี่ยวของเจริญเติบโตขึ้น เริ่มมีประจําเดือน
ซึ่งลักษณะการมีประจําเดือนในเพศหญิงจะเปนการบงบอกวา วัยรุนหญิงไดบรรลุวุฒิภาวะทางเพศแลว
และสามารถตั้งครรภไดการมีประจําเดือน (menstruation)
เปนปรากฏการณตามธรรมชาติที่เกิดในเพศหญิงเมื่อยางเขาสูวัยรุน
โดยรังไขจะสรางฮอรโมนและผลิตไข ปกติไขจะเจริญเติบโตและสุกเดือนละ 1 ฟอง
สลับกันระหวางรังไขซายและขวา เมื่อไขสุกจะหลุดออกจากรังไขแลวถูกพัดพาเขาไปในทอรังไขหรือปกมดลูก
เพื่อรอรับการผสมจากตัวอสุจิของเพศชาย ในขณะเดียวกันฮอรโมนเพศหญิงที่ผลิตจากรังไขและสงไปตามรางกาย
จะทําใหเกิดการเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุมดลูก โดยในชวงสัปดาหแรกของรอบเดือน
ผนังมดลูกจะหนามากที่สุด มีหลอดเลือดมาเลี้ยงมากมาย เพื่อเตรียมพรอมที่จะรับการเกาะฝงของไขที่ไดรับการผสมจากตัวอสุจิ
ถาหากไขไมไดรับการผสม เยื่อบุมดลูกก็จะคอย ๆ หลุดออก
หลอดเลือดบริเวณเยื่อบุมดลูกก็จะลอกหลุดและฉีกขาด ทําใหเลือดไหลออกทางปากมดลูกผานชองคลอดออกสูภายนอก
เรียกวา ประจําเดือนอาการเมื่อมีประจําเดือน
กอนมีประจําเดือน บางคนอาจมีอาการบางอยางเกิดขึ้นได เชน ปวดศรีษะ
ทองอืดเฟอปวดเมื่อกลามเนื้อบริเวณหลังและบั้นเอว เตานมตึงและเจ็บหงุดหงิดงาย
อารมณไมปกติหรือเบื่ออาหาร คลื่นไสอาเจียน
ขอควรปฏิบัติขณะมีประจําเดือน คือ
ใชผาอนามัยอยางถูกวิธี และลางมือ
ใหสะอาดทุกครั้ง
นอกจากนี้ขณะมีประเดือน บางคนมีอาการบางอยางดังกลาวขางตน และอาจมีการ
ปวดทองนอยเพิ่มดวย
ซึ่งเปนอาการปกติที่จะหายไปเองเมื่อประจําเดือนหยุด หากมีอาการผิดปกติที่
รุนแรง เชน
ปวดทองมากขณะมีประจําเดือน มีประจําเดือนนานเกิน 7 วัน หรือประจําเดือนมา
คลาดเคลื่อนจากปกติมาก
ควรปรึกษาแพทยโดยเฉพาะสูตินรีแพทยผาอนามัยควรเปลี่ยนบอย ๆ
อยางนอยวันละ 2-3 ครั้ง และทุกครั้งหลังอาบน้ําหรือหลังถายอุจจาระ
รักษาความสะอาดของรางกายและเสื้อผาที่สวมใส ไมใชเสื้อผารวมกับผูอื่น ออกกําลังกายใหนอยลงกวาปกติ
พักผอนใหเพียงพอ ทําจิตใจใหราเริงแจมใส ถามีอาการปวดทองนอยมากใหนอนคว่ําแลวใชหมอนรองใตทองนอยประมาณ
15-20 นาที ประจําเดือนจะออกไดดีและชวยใหทุเลาปวด
อาจไมจําเปนตองใชยาแกปวด ควรรับประทานยาแกปวดหากมีอาการปวดมากถาปวดทองรุนแรงมากหรือมีเลือดออกมากผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย
และขณะมีประจําเดือนไมควรอาบน้ําแบบแชในแมน้ําลําคลอง
อางน้ําในบานหรือสระวายน้ํา เพราะเชื้อโรคในน้ําอาจเขาสูโพรงมดลูกได
เนื่องจากปากมดลูกจะเปดเล็กนอย จึงควรอาบน้ําแบบตักหรือใชฝกบัว
การเปลี่ยนแปลงทางรางกายของเพศชาย
เด็กชายจะเริ่มเขาสูวัยรุนเมื่ออายุประมาณ
13-15 ป ตอมใตสมองจะผลิต
ฮอรโมนที่ไปกระตุนใหรางกายเจริญเติบโต
และกระตุนใหอัณฑะผลิตเซลลสืบพันธุและฮอรโมน
เพศชายมีการเปลี่ยนแปลงของรางกายที่เห็นไดชัดโดยเฉพาะความสูงและน้ําหนักตัวที่เพิ่มขึ้น
แขนขา
ยาวเกงกางไหลกวางออก
กระดูกและกลามเนื้อแข็งแรงขึ้นและมีกําลังมากขึ้น เสียงแตก นมแตกพาน
มีหนวดเครามีขนขึ้นที่หนาแขง รักแร
และบริเวณอวัยวะเพศ บางคนอาจมีสิวขึ้นบริเวณใบหนา
หนาอก หรือหลัง
อวัยวะเพศโตขึ้นและแข็งตัวเมื่อมีความรูสึกทางเพศหรือถูกสัมผัส และมีการหลั่ง
น้ําอสุจิหรือน้ํากามออกมาในขณะหลับ
(ฝนเปยก) ซึ่งเปนอาการที่บงบอกวาไดบรรลุวุฒิภาวะทางเพศ
แลว
และยังหมายถึงการมีความสามารถที่จะทําใหเพศหญิงเกิดการตั้งครรภไดอีกดวย
การฝนเปยก (wet
dream) เปนปรากฏการณตามธรรมชาติที่เกิดในเพศชาย
กลาวคือในดานรางกายลูกอัณฑะจะทําหนาที่สรางฮอรโมนเพศชายและตัวอสุจิ
โดยจะเก็บสะสมไวที่
ถุงเก็บน้ําอสุจิ ในดานจิตใจและอารมณ
ฮอรโมนเพศจะมีผลทําใหวัยรุนเริ่มมีความรูสึกทางเพศ และ
สนใจเพศตรงขาม
เมื่อรางกายมีการผลิตน้ําอสุจิเก็บไวมากขึ้น ประกอบกับจิตใจและอารมณมีการ
เปลี่ยนแปลงดังกลาว
จะมีผลทําใหเกิดความตึงเครียดของประสาท ในขณะหลับอาจฝน จินตนาการ
เกี่ยวกับเรื่องเพศหรือเรื่องที่หวาดเสียว
สงผลใหถุงเก็บน้ําอสุจิรัดตัวทําใหตัวอสุจิและน้ําหลอเลี้ยงถูก
บีบเขาสูทอปสสาวะและขับเคลื่อนออกมาภายนอกโดยอัตโนมัติ
ซึ่งเรียกอาการที่เกิดขึ้นนี้วา ฝน
เปยก ซึ่งนับวาเปนการผอนคลายความตึงเครียดทางจิตใจและอารมณทางเพศตามธรรมชาติ
จึงไมถือ
วาผิดปกติแตอยางใด
1.3
ตอมไรทอที่มีอิทธิพลตอการควบคุมพัฒนาการทางเพศ
ตอมไรทอที่มีอิทธิพลตอการเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุนที่สําคัญ
ไดแก
ตอมใตสมองหรือตอมพิทูอิทารี (Pituitary
gland) ตอมเพศ (Gonads) ตอมไทรอยด (thyroid
gland)
และตอมหมวกไต (adrenal
or suprarenal glands) ซึ่งตอมไรทอแตละตอมสงผลตอการเจริญเติบโต
และพัฒนาการของวัยรุน
1.4อารมณทางเพศ (sexuality) หรือความตองการทางเพศ (sexusl
desire)
ในที่นี้จะหมายถึง
ความรูสึกของบุคคลที่มีผลมาจากสิ่งเราภายในหรือสิ่งเราภายนอก
ที่เปนปจจัยที่มากระตุนใหเกิดความรูสึกทางเพศขึ้น
โดยมีระดับความแตกตางมากนอยตางกัน ขึ้นอยู
กับความสามารถในการควบคุมอารมณและพื้นฐานทางดานวุฒิภาวะของแตละบุคคล
จากความหมายดังกลาวจะเห็นไดวา
สิ่งเราภายในและสิ่งเราภายนอกเปนปจจัยสําคัญ
ที่จะสงผลใหอารมณและอารมณทางเพศเกิดขึ้น
และเมื่อวิเคราะหในประเด็นที่เกี่ยวของกับ
ความสําคัญของอารมณทางเพศกับวัยรุนแลว
สรุปประเด็นที่สําคัญได ดังนี้
1) อารมณทางเพศถือวาเปนสัญชาตญาณในการดํารงเผาพันธุของมนุษยที่
เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
เปนตัวบงชี้ประการหนึ่งที่แสดงใหเห็นถึงความสมบูรณของพัฒนาการทางดาน
รางกาย จิตใจ และอารมณของวัยรุน
ที่กาวเขาสูชวงของวัยเจริญพันธุมากขึ้น
2) ปจจุบันสื่อหลายรูปแบบที่ปรากฏอยูในสังคมมีสวนชวยกระตุนแรงขับทาง
เพศ (Sex drive) ของวัยรุนใหเกิดอารมณทางเพศไดงายขึ้น
การนําเสนอภาพหรือขอความที่เกี่ยวของ
กับเรื่องเพศผานสื่อตาง ๆ
เปนปจจัยหนึ่งที่ยั่วยุใหวัยรุนเกิดอารมณทางเพศที่เสี่ยงตอการมีเพศสัมพันธ
ไดงายและเร็วขึ้น โดยสื่อตาง ๆ
เหลานี้อาจอยูในรูปแบบของหนังสือหรือภาพยนตรบางประเภท รวม
ไปถึงขอมูลที่ไดจากการสืบคนดวยระบบอินเทอรเน็ต
ซึ่งผลกระทบจากอารมณทางเพศในแงลบจะมี
มากยิ่งขึ้น
หากวัยรุนขาดความรูความเขาใจในแนวทางการควบคุมอารมณทางเพศอยางถูกตอง จนใน
ที่สุดอาจนําไปสูพฤติกรรมเสี่ยงตอการมีเพศสัมพันธโดยไมตั้งใจ
และนํามาสูปญหาตาง ๆ ในสังคมที่
เกี่ยวของกับพฤติกรรมทางเพศที่ไมเหมาะสมของวัยรุนได 3)
อารมณทางเพศของวัยรุนหากขาดวิธีการควบคุมที่ถูกตอง จะนําไปสูปญหาพฤติกรรมทางเพศที่ไมเหมาะสมของวัยรุนมากขึ้น
วัยรุนแมจะเปนวัยที่มีแรงขับทางเพศสูงกวาทุกวัย
และพรอมที่จะมีเพศสัมพันธหรือมีบุตรไดก็ตาม แตสังคมและวัฒนธรรมของไทยก็ยังไมยอมรับที่จะใหวัยรุนชาย-หญิง
แสดงพฤติกรรมทางเพศที่ไมเหมาะสมดังกลาว โดยเฉพาะการมี
เพศสัมพันธจนกวาจะไดทําการสมรสหรือยูในชวงวัยที่เหมาะสมอารมณทางเพศที่เกิดขึ้นในชวงการ
เขาสูวัยรุน
เปนพัฒนาการอยางหนึ่งที่แสดงใหเห็นถึงความพรอมของรางกายที่จะสืบทอดและดํารงไว
ซึ่งเผาพันธุ โดยมีสิ่งเราสําคัญใน
2 ลักษณะ ประกอบดวย ลักษณะของปจจัยที่เปนสิ่งเราภายใน
(intrinsic stimulus) และลักษณะของปจจัยที่เปนสิ่งเราภายนอก (extrinsic stimulus)
1) ลักษณะของปจจัยที่เปนสิ่งเราภายใน
ปจจัยที่เปนสิ่งเราภายใน
ในที่นี้หมายถึง สิ่งเราซึ่งเปนผลที่เกิดจาก
กระบวนการเปลี่ยนแปลงตาง ๆ
ที่เกิดขึ้นในรางกาย โดยไดรับอิทธิพลมาจากการทํางานของระบบ
ตอมไรทอ ซึ่งผลิตฮอรโมน
ออกมาเพื่อกระตุนใหรางกายมีการพัฒนาอยางเปนระบบตอเนื่อง
ฮอรโมนเพศเปนปจจัยภายในที่สําคัญที่เปนสิ่งเราใหวัยรุนมีพัฒนาการของอารมณทางเพศเกิดขึ้น
และนําไปสูการเกิดความตองการทางเพศตามชวงวัย
ในเพศชายฮอรโมนที่เปนปจจัยสําคัญในเรื่อง
ดังกลาว คือ ฮอรโมนเทสโทสเตอโรน
สวนในเพศหญิง คือ ฮอรโมนเอสตราดิโอล และ ฮอรโมน
ฟอลลิคิวลาร
2) ลักษณะของปจจัยที่เปนสิ่งเราภายนอก
ปจจัยที่เปนสิ่งเราภายนอก
ในที่นี้หมายถึง สภาพแวดลอมภายนอกตาง ๆ ที่
สามารถกระตุนหรือยั่วยุใหผูที่รับรู
หรือไดรับการถายทอดเกิดความรูสึกที่เกิดเปนอารมณทางเพศขึ้น
ประกอบดวยสื่อรูปแบบตาง ๆ
ที่กระตุนหรือยั่วยุใหวัยรุนเกิดอารมณทางเพศ ปจจุบันมีสื่อ
หลากหลายรูปแบบโดยเฉพาะ สื่อทางเพศ
ไดนําเสนอภาพและ/หรือขอความที่เกี่ยวกับเพศ ซึ่งมักจะ
นําไปสูการกระตุนหรือยั่วยุใหผูรับสื่อโดยเฉพาะในวัยรุน
ความหลากหลายของสื่อในลักษณะ
ดังกลาวทําใหมีผูเปรียบเปรยสื่อตาง
ๆ เหลานี้เปน สินคาเพศพาณิชย ซึ่งนับวันจะมีการผลิตและนํามา
เผยแพรใหเห็นเพิ่มมากขึ้นคานิยมและพฤติกรรมที่ไมเหมาะสมในบางลักษณะของวัยรุน
ผลจากสภาพ
ทางสังคมและวัฒนธรรมที่เกี่ยวของกับเรื่องเพศที่เปลี่ยนไป
สงผลใหวัยรุนไทยเกิดคานิยม และมี
พฤติกรรมที่ไมเหมาะสมในหลายลักษณะ
เปนตนวา คานิยมในเรื่องการแตงกายตามสมัยนิยม
(Fashion) ที่มากเกินควรของวัยรุน
โดยไมคํานึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เชน ลักษณะการสวม
เสื้อผาที่รัดรูป
หรือเปดเผยสัดสวนรางกายของวัยรุนเพศหญิง ซึ่งการแสดงออกดังกลาวจะกระตุน
และยั่วยุใหวัยรุนชายเกิดอารมณทางเพศได
นอกจากนี้ยังพบวาวัยรุนมักจะมีคานิยมที่เกี่ยวกับความ
ตองการในการแสดงออกโดยอิสระ
เปนตนวา การเที่ยวเตรในเวลากลางคืน การสัมผัสรางกายของ
เพศตรงขาม
หรือการจับมือถือแขนอยางเปดเผยในที่สาธารณะ การอยูตามลําพังสองตอสอง หรือการ
ไมใหความสําคัญในเรื่องการรักษาพรหมจารี
ฯลฯ ซึ่งสิ่งตาง ๆ เหลานี้ถือวาเปนปจจัยภายนอกที่สามารถ
จะกระตุนหรือยั่วยุใหวัยรุนเกิดอารมณทางเพศขึ้นไดความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในขณะที่วัยรุนเกิดการ
เปลี่ยนแปลงทางเพศ
อารมณเพศหรือความตองการทางเพศที่เกิดขึ้นกับวัยรุน ไมวาจะเกิดจากสิ่งเรา
ภายในหรือภายนอกก็ตาม
มักจะทําใหเกิดการเปลี่ยนแปลงใน 2
ลักษณะสําคัญ ประกอบดวย
ลักษณะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสภาพจิตใจ
และลักษณะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสภาพ
รางกาย
1) ลักษณะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสภาพจิตใจ
โดยปกติขณะที่คนเราเกิดอารมณทางเพศจะพบวา
มีจิตนาการที่เกี่ยวของกับ
เรื่องเพศอยูในระดับหนึ่ง
ซึ่งจะมากหรือนอยหรือมีความแตกตางกัน ยอมขึ้นอยูกับพื้นฐาน
ความสามารถในการควบคุมอารมณและความรูสึกของแตละคน
และโดยทั่วไปพบวา ความตื่นเตน
ทางเพศที่เปนพื้นฐานของการเกิดอารมณทางเพศในเพศหญิงจะเกิดไดชากวาเพศชาย
อยางไรก็ตาม
ทั้งเพศชายและเพศหญิงเมื่อเกิดอารมณทางเพศขึ้น
หากความสามารถในการควบคุมอารมณและการ
จัดการในเรื่องดังกลาวไมดีพอ
ก็มักจะสงผลใหเกิดปญหาทางดานสุขภาพจิตขึ้นได โดยเริ่มจากภาวะ
ทางดานจิตใจที่เกิดความเครียดขึ้น
แลวนํามาสูภาวะของความวิตกกังวลที่เกี่ยวของกับเรื่องเพศ จน
อาจนําไปสูการขาดความเชื่อมั่นในตนเองได
2) ลักษณะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสภาพรางกาย
ขณะที่สภาพจิตใตมีการเปลี่ยนแปลงและแสดงออกถึงความตองการทางเพศ
ปฏิกิริยาของรางกายที่แสดงใหเห็นถึงภาวะความเปลี่ยนแปลงดังกลาวของรางกายจะเห็นไดชัดเจน
มากขึ้น
โดยเฉพาะรางกายที่แสดงใหเห็นถึงภาวะความเปลี่ยนแปลงดังกลาวของรางกาย จะเห็นได
ชัดเจนมากขึ้น
โดยเฉพาะบริเวณอวัยวะเพศที่มีการไหลเวียนของเลือดที่สงมามากขึ้น สงผลให
อวัยวะเพศเกิดการขยายตัวเพศชาย
พบวาบริเวณองคชาตหรือลึงค (penis) จะมีขนาดเพิ่มขึ้นและแข็งตัว
ขึ้น ผนังที่หุมอัณฑะ (Scrotum)
จะหนาขึ้น ลูกอัณฑะจะเคลื่อนตัวสูงขึ้น
เพศหญิง
พบวาบริเวณอวัยวะเพศนอกจากจะขยายตัวแลว บริเวณชองคลอด
อาจมีการขับน้ําหลอลื่นออกมา
รวมทั้งกลามเนื้อบริเวณดังกลาวยังอาจเกิดการหดรัดตัวขึ้นเปนระยะ
นอกจากการเปลี่ยนแปลงบริเวณอวัยวะเพศแลว
ผลจากการเกิดอารมณทาง
เพศยังสงผลใหการสูบฉีดเลือดของหัวใจเพิ่มขึ้น
ทําใหเลือดไหลเวียนเพิ่มขึ้น เปนผลใหผิวหนัง
บริเวณที่สังเกตได
มีการเปลี่ยนแปลงเปนสีแดงเพิ่มขึ้น เชน บริเวณใบหนา ลําคอ อก และหนาทอง
นอกจากนี้
ในเพศหญิงหัวนมและเตานมอาจมีการขยายตัวขึ้น
ผลกระทบดานลบที่เกิดขึ้นจากการเกิดอารมณทางเพศของวัยรุน
จนนํามาสู
ปญหาทางสังคมที่เห็นไดชัดอีกประการหนึ่งในปจจุบัน
คือ การมีพฤติกรรมทางเพศที่ไมเหมาะสม
ของวัยรุน ซึ่งนํามาสูปญหาตาง ๆ
ตามมา เปนตนวา การเกิดปญหาการตั้งครรภที่ไมพึงประสงคใน
วัยรุน
การเกิดปญหาการติดโรคทางเพศสัมพันธและโรคเอดสในวัยรุน
โดยปญหาเหลานี้ถือวาเปน
ผลกระทบที่สืบเนื่องมาจากการเกิดอารมณทางเพศของวัยรุนที่ไมไดรับการควบคุมและจัดการที่
ถูกตองเหมาะสม
ซึ่งผลกระทบดังกลาวถือไดวาเปนปญหาทางสังคมที่สําคัญอีกประการหนึ่งใน
ปจจุบันแนวทางในการจัดการกับอารมณทางเพศของวัยรุน
การจัดการกับอารมณทาง
เพศของวัยรุนมีแนวทางการปฏิบัติที่สําคัญอยู
2 ลักษณะ ประกอบดวย แนวทางการปฏิบัติเพื่อระงับ
อารมณทางเพศ
และแนวทางการปฏิบัติเพื่อผอนคลายความตองการทางเพศ
หลีกเลี่ยงการปฏิบัติหรือการทําตัวใหวางหรือปลอยตัวใหมีความสบายเกินไปเชน การนอนเลน ๆ โดยไมหลับ
การนั่งฝนกลางวันหรือนั่งจิตนาการที่เกี่ยวของกับเรื่องเพศ การอยูในสภาพของบรรยากาศที่มีแสงสีเสียงที่กอหรือปลุกเราใหเกิดอารมณทางเพศอยางไรก็ตาม
แมในทางจิตวิทยาและในทางการแพทยจะมีความเห็นที่สอดคลองกันวา
การบําบัดความใครดวยตนเองโดยทั่วไปจะไมกอใหเกิดความผิดปกติทั้ง
ทางรางกายและจิตใจ
แตก็ไมควรปฏิบัติบอยจนเกิดความหมกมุนตอเรื่องดังกลาว
ซึ่งจะกอใหเกิดเปนลักษณะนิสัยซึ่งอาจสงผลลบตอบุคลิกภาพและความเขมแข็งทางดานการควบคุมอารมณที่ดีได
ดังนั้น หากมีความจําเปนและไมสามารถที่จะหลีกเลี่ยงการปฏิบัติในเรื่องดังกลาวได
ควรระลึกและคํานึงถึง
หลักการปฏิบัติที่เกี่ยวของใน 3 ลักษณะที่สําคัญ คือ ตองคํานึงในหลักของความสะอาดเปนพื้นฐาน
ตองคํานึงถึงสถานที่ในการปฏิบัติ คือ
ตองมีความเปนสวนตัว ไมประเจิดประเจอ และตองไมปฏิบัติ
ดวยวิธีการที่รุนแรง
ซึ่งอาจกอใหเกิดบาดแผล หรือมีการอักเสบ หรือติดเชื้อได
1.5 การปรับตัวทางเพศเมื่อเขาสูวัยรุน
เมื่อเขาสูวัยรุน
เพื่อชวยใหสามารถปรับตัวไดอยางถูกตองและเหมาะสมกับ
เพศของตนดียิ่งขึ้น
วัยรุนควรมีแนวทางในการปฏิบัติ ดังนี้
1) ศึกษาใหเขาใจถึงการเปลี่ยนแปลงทางเพศของรางกายและจิตใจ
เมื่อยาง
เขาสูวัยรุน
เราจะสังเกตเห็นวามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในตัวเราหลายอยาง
บางอยางก็อาจทําใหเรา
ไมสบายใจ เชน วัยรุนชายบางคนไมอยากพูดคุยกับเพื่อนเพราะอายที่เสียงแตกพรา
สําหรับวัยรุน
หญิงที่มีประจําเดือนเปนครั้งแรกอาจมีความรูสึกกังวลและมีอาการตาง
ๆ เกิดขึ้น แตถาหากไดศึกษา
และทําความเขาใจเกี่ยวกับสภาพการเปลี่ยนแปลงดังกลาว
จะทําใหเขาใจและสามารถปฏิบัติตนได
อยางถูกตอง
2) ปรับตัวเขากับเพื่อนตางเพศใหเหมาะสม
วัยรุนเปนวัยที่มีการเปลี่ยนแปลง
ทางเพศหลายอยางทั้งชายและหญิงเริ่มมีความสัมพันธกันทางสังคมมากขึ้น
ทําใหชายและหญิงตางมี
ความสนใจในเพื่อนตางเพศมากขึ้น
การคบเพื่อนตางเพศไมใชสิ่งเสียหาย แตตองปฏิบัติตนอยูใน
ขอบเขตที่เหมาะสมและรูจักมารยาทที่ควรปฏิบัติตอกัน
ดังนี้
ฝายชาย ควรใหเกียรติฝายหญิง
ไมเกี้ยวพาราสีหรือฉวยโอกาส มีความ
บริสุทธิ์ใจ
และควรใหความชวยเหลือฝายหญิง เชน ชวยถือของ สละที่นั่งให
ไมแสดงกิริยาวาจาที่
ไมเหมาะสม เชน พูดจาหยาบโลน
หรือใชกําลังรุนแรง เปนตน
ฝายหญิง ควรวางตัวใหเหมาะสม สงวนตัว
ไมอยูในที่รโหฐานกับเพศตรง
ขามตามลําพัง ไมไปในที่เปลี่ยว
แตงตัวสุภาพ ไมแสดงกิริยาวาจาที่ไมเหมาะสม เชน สงเสียงดัง หรือ
กลาวคําผรุสวาท เปนตน แสดงความมีน้ําใจและใหเกียรติฝายชาย
3) ควรรีบปรึกษาผูใหญเมื่อมีปญหาหรือมีอุปสรรคใด
ๆ เกี่ยวกับเรื่องเพศ วัยรุน
สวนมากมักจะมีความวิตกกังวลในเรื่องตาง
ๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางดานรางกายและจิตใจ เมื่อ
มีปญหาเกิดขึ้นควรจะปรึกษาพอแม ครู
ญาติพี่นอง และผูใหญที่ไววางใจ เพราะทานมีประสบการณ
มากกวาเรา
ยอมจะชวยแนะแนวทางปฏิบัติที่ถูกตองใหแกเราได
4)
ปฏิบัติตามขนมธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม โดยการเคารพเชื่อฟงผูใหญ
หมั่นศึกษาเลาเรียน
ไมประพฤติไปในทางชูสาวกอนเวลาอันเหมาะสม การยึดมั่นใน
ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามจะชวยเตือนใจใหเราปฏิบัติในทางที่ถูก
2. วัยรุนกับการคบเพื่อน
วัยรุนเปนวัยที่ใหความสําคัญกับเพื่อนและตองการใหตนเองเปนที่นิยมชมชอบใน
กลุมเพื่อน
การมีเพื่อนที่ดีจะทําใหวัยรุนมีผูที่คอยรวมทุกขรวมสุข ปรับทุกข
ชี้แนะแนวทางในการ
แกไขปญหาอยางถูกตอง
แตถาวัยรุนคบเพื่อนที่ไมดีก็จะชักนําไปสูทางที่ไมดี
วัยรุนจึงควรรูจักเลือก
คบเพื่อนที่ดีและสรางความสัมพันธที่ดีกับเพื่อน
ซึ่งจะชวยใหสามารถปรับตัวใหเขากับสังคมไดตอไป
2.1 หลักการคบเพื่อน
ควรมีหลักปฏิบัติในการคบเพื่อน คือวัยรุนควรพิจารณากลุมเพื่อนที่คบวามี
ความประพฤติเปนอยางไร
ถาเพื่อนคนใดประพฤติตนในทางไมดี ก็ควรแนะนําและชักจูงใหเขา
ประพฤติในทางที่ดี
รูจักปฏิเสธและไมหลงเชื่อคําชักชวนหรือปฏิบัติตามเพื่อนที่มีความประพฤติไมดี
เชน ชวนใหหนีเรียนเที่ยวกลางคืน
เลนการพนัน เสพสารเสพติด เปนตน โดยในการพูดปฏิเสธนั้น
ใหปฏิบัติดังนี้ พูดดวยน้ําเสียงหนัก
แนนมั่นคง
ควรบอกความรูสึกดีกวาบอกเหตุผลหรือขออาง
เพราะความรูสึกเปนเรื่องสวนตัวของแต
ละบุคคล ถาบอกเหตุผลหรือขออาง
เพื่อนอาจจะนําเหตุผลอื่นมาลบลางใหปฏิเสธไมได และรูจัก
แนะนําและชักชวนเพื่อนปฏิบัติกิจกรรมที่ดีและมีประโยชน
เชน เลนกีฬา เลนดนตรี เรียน
ภาษาตางประเทศ เรียนคอมพิวเตอร
เขารวมในกิจกรรมพัฒนาตาง ๆ ในชุมชน เปนตน โดยเลือก
ตามความสนใจและความเหมาะสมของตนเอง
จะไดเปนการใชเวลาวางใหเกิดประโยชน
2.2 หลักทั่วไปในการผูกมิตร
หลักทั่วไปในการผูกมิตร
มีแนวทางในการปฏิบัติ ดังนี้
1) รูจักยอมรับคําติชม เชน
รับฟงความคิดเห็นหรือคําวิพากษวิจารณของผูอื่น
เกี่ยวกับตัวเราเองดวยความเต็มใจ
เปนธรรม ไมลําเอียงเขาขางตนเอง และสามารถควบคุมอารมณได
2) รูจักอารมณขัน มองโลกในแงดี
และควรเปนคนยิ้มงาย เปน
บุคลิกลักษณะที่ดีและเปนเสนหที่ทําใหผูพบเห็นหรือคบคาสมาคมดวยรูสึกชมชอบ
เกิดความสุขและ
ความสบายใจ
นับวาเปนสิ่งสําคัญยิ่งอยางหนึ่งที่จะนําไปสูการตอนรับและความรวมมือที่ดี
3) รูจักออนนอมถอมตน
ไมคุยโออวดความสามารถของตน ไมพูดจาดูถูก
หรือยกตนขมผูอื่น
และรูจักยอมรับขอบกพรองหรือความดอยของตนในดานตาง ๆ
4) รูจักรับผิดชอบตอหนาที่ เชน
หนาที่สําคัญของนักเรียนคือเรียน ครูมี
หนาที่ใหการศึกษาอมรมแกนักเรียน
นักศึกษา
5) รูจักประนีประนอม
เมื่อเกิดปญหาหรืออุปสรรคขึ้น ควรจะมีการ
ประนีประนอมหรือรอมชอมกัน
ซึ่งเปนวิธีการหนึ่งที่คนเราอาจตกลงกันไดอยางยุติธรรมและมี
เหตุผล
6) รูจักเอาใจเขามาใสใจเรา
ใหคิดเสมอวาอะไรก็ตามที่เราเองไมชอบ ไม
ตองการใหผูอื่นกระทําตอเรา
ก็จงอยากระทําสิ่งนั้นตอบุคคลอื่น และถาตองการใหบุคคลอื่นกระทํา
สิ่งใดตอเราก็จงกระทําสิ่งนั้นตอเขา
7) รูจักใหกําลังใจคนอื่น เชน
ยกยองใหเกียรติ ใหกําลังใจผูอื่นดวยการ
ชมเชย
รูจักแสดงความชื่นชมยินดีตอความสําเร็จของเพื่อนรวมหอง เพื่อนรวมงาน เปนตน
2.3
หลักในการสรางเสริมความสัมพันธอันดีกับกลุมเพื่อน
หลักในการสรางเสริมความสัมพันธอันดีกับกลุมเพื่อน
มีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
1) รูจักตนเองและรูจักคนอื่น
วัยรุนตองมีความเขาใจในความตองการของตน
และของเพื่อนยอมรับสภาพความเปนจริงของตน
และยอมรับความแตกตางในตัวเพื่อนกับตัวเอง ไม
อิจฉาริษยาเพื่อนที่มีฐานะดีกวา
หรือมีความสามารถมากกวา และไมยกตนขมทานหรือดูถูกเหยียด
หยามเพื่อนที่ดอยกวาตน
แตใหยินดีกับความสําเร็จของเพื่อน และคอยชวยเหลือสนับสนุนเพื่อนหาก
มีโอกาส
2) มีมนุษยสัมพันธที่ดี รูจักพูด
รูจักฟง เรียนรูที่จะพูดเรื่องตาง ๆ ในจังหวัด
ที่เหมาะสม
เปดโอกาสใหเพื่อนไดแสดงความคิดเห็น และรับฟงความคิดเห็นของเพื่อน เอาใจใสใน
ตัวเพื่อน
และใหความสําคัญกับเพื่อนดวยความบริสุทธิ์ใจ ตลอดจนมีความซื่อสัตยและจริงใจตอ
เพื่อน
3) การมองโลก ใหมองในแงที่เปนจริง
ไมมองในแงดีจนเกินไป อันอาจถูก
หลอกลวงและคดโกงได
แตไมมองคนในแงรายจนเกินไป อันจะทําใหเปนคนใจแคบ ไมรูจักการให
อภัย
4) มีน้ําใจเปนนักกีฬา
ยอมรับผิดเมื่อรูวาตนผิด ปฏิเสธในสิ่งที่ตนไมสามารถ
ทําได เมื่อใหสัญญาอยางไรไวกับใครก็ตองพยายามทําตามสัญญานั้นใหดีที่สุด
นอกจากนี้ยังตองรูจัก
เสียสละและใหอภัยแกเพื่อนเมื่อเกิดขอผิดพลาด
โดยทําความเขาใจถึงสาเหตุที่ทําใหเกิดขอผิดพลาด
นั้น
และรวมมือกันปรับปรุงแกไขตามสาเหตุที่เกิดขึ้นตอไป
หรือสงผลมากระทบ และเมื่อเกิดอารมณขึ้นก็มักจะพบวาพฤติกรรมการ
แสดงออกดังกลาว
มักมีการเปลี่ยนแปลงหรือแตกตางไปจากสภาพเดิม ซึ่งสังเกตเห็นไดชัดเจนหรือ
อาจไมชัดเจน
ทั้งนี้ขึ้นอยูกับความสามารถในการปรับสภาพอารมณของแตละบุคคล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น