สรีระร่างกายที่เกี่ยวข้องกับการสืบพันธุ์
การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษยนั้น
หมายถึง การเจริญเติบโตและ
พัฒนาการทางรางกายและจิตใจควบคูกันไปตลอด
เริ่มตั้งแต วัยเด็ก วัยแรกรุน วัยผูใหญ ตามลําดับ
ที่สุด
สวนการเจริญเติบโตและพัฒนาการทางจิตใจนั้นไมมีขีดจํากัด จะเจริญเติบโตและพัฒนาเจริญ
งอกงามขึ้นเรื่อย ๆ
จนกระทั่งเขาสูวัยชรา
1.
อวัยวะสืบพันธุและสุขปฏิบัติเกี่ยวกับอวัยวะสืบพันธุ
การสืบพันธุของมนุษยเปนธรรมชาติอยางหนึ่งที่เกิดขึ้นเพื่อดํารงไวซึ่งเผาพันธุ
การ
สืบพันธุนั้น
จําเปนตองอาศัยองคประกอบที่สําคัญคือ เพศชายและเพศหญิง ทั้งเพศชายและเพศหญิง
ตางก็มีโครงสรางที่เกี่ยวของกับอวัยวะเพศและการสืบพันธุโดยเฉพาะของตน
1.1 ระบบสืบพันธุของเพศชาย

อวัยวะสืบพันธุชายสวนใหญอยูภายนอกของรางกาย
สามารถปองกันและระวังรักษา
ไมใหเกิดโรคติดตอหรือโรคติดเชื้อตาง
ๆ ไดโดยงาย อวัยวะสืบพันธุชายมีความเกี่ยวของกับระบบ
การขับถายปสสาวะ
เพราะวาการขับน้ําอสุจิออกจากรางกายตองผานทอปสสาวะดวย อวัยวะสืบพันธุ
ชายประกอบดวยสวนตาง ๆ
ที่สําคัญดังนี้
(1.) ตอมอัณฑะ (Testis)
มีลักษณะและรูปรางคลายไขไกฟองเล็ก ยาวประมาณ 4
เซนติเมตร กวางประมาณ 4 เซนติเมตร
หนาประมาณ 2-3 เซนติเมตร หนักประมาณ 15-30 กรัม
อัณฑะขางซายจะใหญกวางขางขวาเล็กนอย
ตามปกติจะมีอัณฑะอยู 2 ลูก
ภายในลูกอัณฑะมีหลอดเล็ก ๆ จํานวนมาก
ขดเรียงอยูเปนตอน ๆ เรียกวา หลอด
สรางอสุจิ (Seminiferous
Tabules) มีหนาที่ผลิตฮอรโมนเพศชายและตัวอสุจิ
สวนดานหลังของตอม
อัณฑะ จะมีกลุมของหลอดเล็ก ๆ
อีกมากมายขดไปมา เรียกวาหลอดเก็บตัวอสุจิ (Epididymis) เปนที่
เก็บเชื้ออสุจิชั่วคราว
เพื่อใหเชื้ออสุจิเจริญเติบโตไดเต็มที
(2.) ตอมลูกหมาก (Prostate
Gland) เปนตอมที่หุมอยูรอบทอปสสาวะสวนใน ตรง
ดานลางของกระเพาะปสสาวะ
มีหนาที่สรางของเหลวซึ่งมีฤทธิ์เปนดางออน ๆ สงเขาไปในถุงเก็บ
อสุจิ เพื่อผสมกับน้ําเลี้ยงตัวอสุจิ
ของเหลวนี้จะไปทําลายฤทธิ์กรดจากน้ําเมือกในชองคลอดเพศหญิง
ปองกันไมใหตัวอสุจิถูกทําลายดวยสภาพความเปนกรด
เพื่อใหเกิดการปฏิสนธิขึ้นได
(3.) ลึงค หรือองคชาต (Penis)
เปนสวนประกอบหนึ่งของอวัยวะสืบพันธุชาย ที่
แสดงใหเห็นวาเปนเพศชายอยางชัดเจน
มีลักษณะยื่นออกมา สวนปลายสุดจะมีรูปรางคลายหมวก
เหล็กทหารสวมอยู
ขนาดใหญกวาลําตัวลึงคเล็กนอย สวนนี้จะมีเสนประสาทมาหลอเลี้ยงมาก ทําให
มีความรูสึกไวตอการสัมผัส
เมื่อมีความตองการทางเพศเกิดขึ้น จะทําใหลึงคเปลี่ยนจากนุมเปนแข็ง
เนื่องจากคั่งของเลือด
ทําใหขนาดใหญขึ้น 1-2 เทาตัว ในระหวางการแข็งตัวของลึงคมีตอมเล็ก อยูใน
ทอปสสาวะ ผลิตน้ําเมือกเหนียว ๆ
ซึ่งจะถูกขับออกมา เพื่อชวยในการหลอลื่นและยังทําใหตัวอสุจิ
ผานออกสูภายนอกไดสะดวกอีกดวย
(4.)
ทอพักตัวอสุจิ (Epididymis) มีลักษณะคลายรูปดวงจันทรครึ่งซีก
หอยติดอยู
กับตอมอัณฑะสวนบนคอนขางจะใหญเรียกวา
หัว (Head)
จากหัวก็เปนตัว (Body) และเปนหาง(Tail)
ทอ
นี้ประกอบดวยทอที่คดเคี้ยวเปนจํานวนมาก
เมื่อตัวอสุจิถูกสรางขึ้นมาแลวจะถูกสงเขาทอนี้เพื่อเตรียม
ที่จะออกมาสูทอปสสาวะ
(5.) ทอนําตัวอสุจิ (Vas
Deferens) เปนทอเล็ก ๆ ตอจากลูกอัณฑะ จะทําหนาที่พา
ตัวอสุจิและน้ําอสุจิใหไหลขึ้นไปตามหลอดและไหลเขาไปในถุงน้ําอสุจิ
(6.) ถุงอัณฑะ (Scrotum) เปนถุงที่หอหุมตอมอัณฑะไว ขณะที่ยังเปนตัวออนอยู ตอม
อัณฑะจะเจริญเติบโตในโพรงของชองทอง
เมื่อครบกําหนดตอมอัณฑะจะคอย ๆ เคลื่อนลงลางจากชอง
ทองมากอยูในถุงอัณฑะที่บริเวณขาหนีบ
ถุงอัณฑะมีลักษณะเปนผิวหนังบาง ๆ สีคล้ํา มีรอยยน มี
แนวกลางระหวางทวารหนักไปจนถึงลึงค
จะมีกลามเนื้อ บาง ๆ กั้นถุงอัณฑะออกเปน 2 หอง
ถุงอัณฑะ
จะหอยติดอยูกับกลามเนื้อชนิดหนึ่ง
และจะหดตัวหรือหยอนตัว เมื่ออุณหภูมิของอากาศเปลี่ยนแปลง
เพื่อชวยรักษาอุณหภูมิใหเหมาะสมในการสรางอสุจิ
และปองกันการกระเทือนจากภายนอก
1.1.1 การสรางเซลลสืบพันธุเพศชายและการฝนเปยก
เซลลสืบพันธุเพศชายหรือตัวอสุจิ
(Sperm)
จะถูกสรางขึ้นในทอผลิตอสุจิ
(Seminiferous Tubules) ตัวอสุจิมีขนาดเล็กมาก มีรูปรางลักษณะคลาย ๆ ลูกกบแรกเกิด ประกอบดวย
สวนหัวที่มีขนาดโต
แลวคอยลงมาเปนสวนหางที่ยาวเรียว และสวนหางนี้จะใชในการแหวกวายมา
มีขนาดลําตัวยาวประมาณ
0.05 มิลลิเมตร มีขนาดเล็กกวาไขเพศหญิงหลายหมื่นเทา หลังจากตัวอสุจิ
ถูกสรางขึ้นในทอผลิตตัวอสุจิแลว
จะฝงตัวอยูในทอพักตัวอสุจิจนกวาจะเจริญเต็มที่ ตอจากนั้นจะ
เคลื่อนที่ไปยังถุงเก็บตัวอสุจิ
ในระยะนี้ตอมลูกหมากและตอมอื่น ๆ จะชวยกันผลิตของเหลวมาเลี้ยง
ตัวอสุจิ
หากไมมีการระบายออกโดยมีเพศสัมพันธ รางกายจะระบายออก โดยใหน้ําอสุจิเคลื่อน
ออกมาตามทอปสสาวะเองในขณะนอนหลับ
ซึ่งเปนการลดปริมาณน้ําอสุจิใหนอยลง โดยธรรมชาติ
และยังเปนวิธีหนึ่งที่ชวยลดความเครียดเกี่ยวกับอารมณทางเพศได
เราเรียกวาการฝนเปยก (Wet
Dream) เปนปรากฎการณที่ชี้ใหเห็นวาวัยรุนชายนั้นบรรลุวุฒิภาวะทางเพศแลว
และรางกายก็พรอม
ที่จะใหกําเนิดบุตรได้
1.1.2 สุขปฏิบัติเกี่ยวกับอวัยวะเพศชาย
1.
อาบน้ําอยางนอยวันละ 2 ครั้ง ใชสบูชําระรางกายและอวัยวะเพศให
สะอาดแลวเช็ดใหแหง
2.
สวมเสื้อผาที่สะอาด โดยเฉพาะกางเกงในไมคับและไมหลวมเกินไป
4. ไมสําสอน
หรือรวมประเวณีกับผูขายบริการทางเพศ
5.
หากสงสัยวาเปนกามโรคควรไปปรึกษาแพทย
6.
ไมควรใชยาหรือสารเคมีเพื่อกระตุนความรูสึกทางเพศ
7.
อยาหมกหมุนหรือหักโหมเกี่ยวกับความสัมพันธทางเพศเกินไป ควรหา
กิจกรรมนันทนาการหรือเลนกีฬา
8.
ระวังอยาใหอวัยวะเพศถูกกระทบกระแทกแรง ๆ
1.2 ระบบสืบพันธุของเพศหญิง
โครงสรางที่เกี่ยวขอ
งกับอวัยวะเพศและก ารสืบพันธุของเพศหญิ ง
ประกอบดวยหลายสวนดวยกัน
ในที่นี้จะกลาวถึงเฉพาะสวนที่สําคัญเทานั้น
(1.) ตอมรังไข (Ovary)
เปนตอมสืบพันธุของเพศหญิง มีหนาที่ผลิตเซลลสืบพันธุ
ของเพศหญิงที่เรียกวาไข
(Ovum)
ตอมรังไขนี้มีอยูดวยกัน 2 ตอม คือ ขางขวาและขางซาย
ซึ่งอยูใน
โพรงของอุงเชิงกราน
มีรูปรางคอนขางกลมเล็กมีน้ําหนักประมาณ 2-3 กรัม นอกจากนี้ตอมรังไขจะ
หลั่งฮอรโมนเพศหญิงออกมาทําใหไขสุก
และเกิดการตกไข
(2.) ทอรังไข (Pallopain
Tubes) ภายหลังที่ไขหลุดออกจากสวนที่หอหุมแลว จะผาน
เขาสูทอรังไข
ทอนี้ยาวประมาณ 6-5 เซนติเมตร ปลายขางหนึ่งมีลักษณะคลายกรวย ซึ่งอยูใกลกับ
รังไข
สวนปลายอีกขางหนึ่งนั้นจะเรียวเล็กลงและไปติดกับมดลูก
ภายในทอรังไขจะมีกลามเนื้อพิเศษ
ซึ่งบุดวยเยื่อที่มีขนและบีบรัดตัวอยูเสมอ
ซึ่งทําหนาที่โบกพัดเอาไขที่สุกแลวเขาไปในทอรังไข คอย
การผสมพันธุจากตัวอสุจิของชาย
และสงไปสูมดลูกตอไป
(3.) มดลูก (Uterus)
มดลูกอยูในอุมเชิงกรานระหวางกระเพาะปสสาวะกับทวารหนัก
ปกติยาวประมาณ 7-8
เซนติเมตร กวางประมาณ 4 เซนติเมตร และหนาประมาณ 2 เซนติเมตร เปน
อวัยวะที่ประกอบดวยกลามเนื้อ
และมีลักษณะภายในกลวง ซึ่งมีผนังหนาไขจะเคลื่อนตัวลงมาตาม
ทอรังไข
เขาไปในโพรงมดลูก
ถาไขไดผสมกับอสุจิแลวจะมาฝงตัวอยูในผนังของมดลูกที่หนาและมี
เลือดมาเลี้ยงเปนจํานวนมาก
ไขจะเจริญเติบโตเปนตัวออนตรงบริเวณนี้ ภายหลังวัยหมดประจําเดือน
แลว
มดลูกจะเล็กและเหี่ยวลง
(4.) ชองคลอด (Vagina)
มีลักษณะเปนโพรงซึ่งมีความยาวประมาณ 8-10 เซนติเมตร
ชองคลอดประกอบดวยกลามเนื้อเรียบ
สวนในสุดเปนสวนที่หุมอยูรอบปากมดลูก ภายในบุดวยเยื่อ
บาง ๆ
ลักษณะเปนรอยยนสามารถยืดหดและขยายตัวไดมากเวลาคลอด ที่ชองคลอดนี้จะมี
เสนประสาทมาเลี้ยงจํานวนมาก
โดยเฉพาะอยางยิ่งบริเวณรูเปดชองคลอด และชองคลอดยังทําหนาที่
เปนทางผานของเลือดประจําเดือนจากโพรงมดลูกออกจากรางกาย
และเปนทางผานของตัวอสุจิจาก
เพศชายเพื่อไปผสมกับไขที่ทอรังไข
(5.) คลิสตอริส (Clitoris)
ลักษณะเปนกอนเนื้อเล็ก ๆ ตั้งอยูบนสวนของแคมเล็ก
เปนเนื้อเยื่อที่ยึดหดได
มีหลอดเลือดและเสนประสาท และไวตอความรูสึกทางเพศเชนเดียวกับลึงค
ของชาย
(6.) ตอมน้ําเมือก (Bartholin
Gland) เปนตอมเล็ก ๆ อยู 2 ขางของชองคลอด ตอม
นี้ทําหนาที่หลั่งน้ําเมือกออกมา
เพื่อใหชวยหลอลื่นชองคลอดในระหวางที่มีการรวมเพศ
(7.) ฝเย็บ (Perineum)
อยูพื้นลางของอุงเชิงกรานที่กั้นอยูระหวางชองคลอดกับ
ทวารหนัก
ขยายและยึดหดตัวได ประกอบดวยกลามเนื้อที่สําคัญ 3 มัด มีหนาที่ชวยเสริมสราง
กลามเนื้อชองคลอดใหแข็งแรง
และปองกันชองคลอดหยอน ถาหากขาดแลวไมเย็บ จะทําใหมดลูก
ต่ําลงมาไดเมื่ออายุมากขึ้น
(8.) เตานม (Breast)
มีอยู 2 เตา ซึ่งมีขนาดใกลเคียงกัน ตรงกลางของเตานมจะมีผิว
ที่ยื่นออกมาเรียกวา
หัวนม เตานมแตละเตาจะประกอบขึ้นดวยกอนเนื้อหลายกอน กอนเนื้อแตละ
กอนจะประกอบดวยทอที่แตกแขนงไปมากมาย
เตานมจะมีขนาดโตขึ้นเมื่อเขาสูวัยสาว เนื่องจากมี
เนื้อเยื่อเกี่ยวพันและไขมันเพิ่มขึ้น
ขณะที่ตั้งครรภเตานมจะโตขึ้น เนื่องจากมีการเจริญเติบโตของตอม
น้ํานมและทอจํานวนมาก
บริเวณเตานมนี้จะมีหลอดเลือดและเสนประสาทไปเลี้ยงอยูมาก จึงทําใหมี
ความไวตอการสัมผัส
1.2.1 ความรูเกี่ยวกับผลของการบรรลุวุฒิภาวะทางเพศหญิง
1.2.1 ความรูเกี่ยวกับผลของการบรรลุวุฒิภาวะทางเพศหญิง
เมื่อเพศหญิงเจริญเติบโตเปนสาว
ไมเฉพาะแตจะมีลักษณะของความเปน
หญิง
ดวยการมีเตานมเจริญเติบโต และมีลักษณะเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ เกิดขึ้นเทานั้น
การบรรลุ
วุฒิภาวะของเพศหญิงขึ้นอยูกับการมีประจําเดือนครั้งแรก
และมีประจําเดือนทุก ๆ เดือน โดยเฉลี่ยจะ
เกิดขึ้นทุก ๆ 28
หรือ 30 วัน และการมีประจําเดือนแตละเดือนอาจะแบงออกไดเปนระยะดังนี้
1. ระยะทําลาย (Destructive
Phase) เปนระยะที่มีเลือดออกมา เนื่องจากมี
การทําลายของเยื่อบุภายในของผนังมดลูก
ระยะนี้จะใชเวลาประมาณ 3-7 วัน หรือเรียกวา จะมีเลือด
ระดูออกมาอยูประมาณ
3-7 วัน จํานวนเลือดที่ไหลออกมามีจํานวนไมแนนอนโดยทั่วไปจะมีปริมาณ
125
ลูกบาศกเซนติเมตร นอกจากเลือดที่ไหลออกมาแลวยังมีเศษของผนังมดลูกที่ถูกทําลายหลุดปน
ออกมาดวย
ระยะทําลายนี้เริ่มแรกมักจะมีอาการทั้งทางรางกายและจิตใจ เชน ถายปสสาวะบอย มี
สิวขึ้นบนใบหนา
เตานมจะโตและแข็ง มีอาการปวดศีรษะ เพลีย หงุดหงิด เปนตน
2. ระยะฟอลลิคูลา (Follicular
Phase) ตอมพิทูอิทารีสวนหนา (Anterior
Lobe) หลั่งฮอรโมนชนิดหนึ่งออกมาและซึมเขากระแสเลือด
แลวนําไปยังตอมรังไขจะทําใหไขซึ่งอยู
ภายในรังไขเจริญเติบโตและสุกระยะนี้กินเวลาประมาณ
9วัน และเมื่อรวมกับระยะที่มีเลือดระดูไหล
ออกมาในระยะทําลายจะกินเวลาประมาณ
14 วัน
3. ระยะลูเทียล (Luteal
Phase) เปนระยะที่ไขสุกเต็มที่และจะหลุดออก
จากรังไข
รังไขจะสรางฮอรโมนชนิดหนึ่งเพื่อกระตุนใหผนังมดลูกหนาและมีเลือดมาหลอเลี้ยงมาก
เพื่อรอรับไขที่จะถูกผสมพันธุ
ถาไขไมไดรับการผสมพันธุฮอรโมนนี้จะลดลง ซึ่งเปนการเริ่มตน
ระยะทําลาย
และจะมีเลือดระดูไหลออกมาใหม
1.2.2
สุขปฏิบัติเกี่ยวกับอวัยวะสืบพันธุของเพศหญิง
1.
อาบน้ําชําระลางกายใหสะอาดอยูเสมอ เวลาอาบน้ําควรทําความสะอาด
อวัยวะเพศเปนพิเศษ
เชน ลาง เช็ดใหแหง โดยเฉพาะอยางยิ่งในชวงมีประจําเดือน ควรใชน้ําอุน
ชําระสวนที่เปอนเลือด
เปนตน
2.
หลังจากถายอุจจาระ ปสสาวะควรทําความสะอาดแลวเช็ดใหแหง
3.
ควรสวมเสื้อที่สะอาด โดยเฉพาะอยางยิ่งกางเกงในตองสะอาด ไมคับไม
หลวมเกินไป
และควรเปลี่ยนทุกวัน
4. รักนวลสงวนตัว
ไมควรมีเพศสัมพันธกอนแตงงาน
5. ไมควรใชยากระตุนหรือสารเคมีตออวัยวะเพศ
6.
การใชสวมเพื่อการขับถาย ควรคํานึงถึงความสะอาดและถูกสุขลักษณะ
7. ควรทํางานอดิเรก
หรือออกกําลังกายเสมอเพื่อเบนความสนใจทางเพศ
8. ในยามที่มีประจําเดือนควรเตรียมผาอนามัยไวใหเพียงพอ และเปลี่ยนอยู
8. ในยามที่มีประจําเดือนควรเตรียมผาอนามัยไวใหเพียงพอ และเปลี่ยนอยู
เสมออยาปลอยไวนาน
9.
ในชวงมีประจําเดือนไมควรออกกําลังกายที่ผาดโผนและรุนแรง ควร
ออกกําลังกายเพียงเบา ๆ
และพักผอนใหเพียงพอ
10. ควรจดบันทึกการมีประจําเดือนไว
ถาประจําเดือนมาชาหรือเร็วบาง
เล็กนอยถือวาปกติ
ถาประจําเดือนมาชาหรือเร็วกวาปกติ 7-8 วันขึ้นไป ควรไปปรึกษาแพทย
11. ในชวงมีประจําเดือน
ถามีอาการปวดทองควรใชกระเปาน้ํารอนมาวาง
ที่ทองนอย เพื่อใหความอบอุน
และอาจรับประทานยาแกปวดไดบาง
12.
ถามีอาการผิดปกติทางรางกายในชวงมีประจําเดือน เชน ปวดทองมาก
หรือมีเลือดไหลออกมา
ควรรีบไปปรึกษาแพทยทันที
13. ระวังอยาใหอวัยวะเพศกระทบกระแทกแรง
ๆ
14.
ถาหากมีการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติของอวัยวะเพศ ควรไปปรึกษาแพทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น