วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2561

3.1 สรีระร่างกายที่เกี่ยวข้องกับการสืบพันธุ์


สรีระร่างกายที่เกี่ยวข้องกับการสืบพันธุ์ 
       
การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษยนั้น หมายถึง การเจริญเติบโตและ
พัฒนาการทางรางกายและจิตใจควบคูกันไปตลอด เริ่มตั้งแต วัยเด็ก วัยแรกรุน วัยผูใหญ ตามลําดับ
โดยทั่วไปแลว การเจริญเติบโตและพัฒนาการทางรางกายของคนเราจะสิ้นสุดลงเมื่อ
มีอายุประมาณ 25 ป จากวัยนี้อวัยวะตาง ๆ ของรางกายเริ่มเสื่อมลง จนยางเขาสูวัยชราและตายใน
ที่สุด สวนการเจริญเติบโตและพัฒนาการทางจิตใจนั้นไมมีขีดจํากัด จะเจริญเติบโตและพัฒนาเจริญ
งอกงามขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งเขาสูวัยชรา
1. อวัยวะสืบพันธุและสุขปฏิบัติเกี่ยวกับอวัยวะสืบพันธุ
การสืบพันธุของมนุษยเปนธรรมชาติอยางหนึ่งที่เกิดขึ้นเพื่อดํารงไวซึ่งเผาพันธุ การ
สืบพันธุนั้น จําเปนตองอาศัยองคประกอบที่สําคัญคือ เพศชายและเพศหญิง ทั้งเพศชายและเพศหญิง
ตางก็มีโครงสรางที่เกี่ยวของกับอวัยวะเพศและการสืบพันธุโดยเฉพาะของตน
1.1 ระบบสืบพันธุของเพศชาย


Image result for สรีระร่างกายที่เกี่ยวข้องกับการสืบพันธุ์ของเพศชาย มีอะไรบ้าง
อวัยวะสืบพันธุชายสวนใหญอยูภายนอกของรางกาย สามารถปองกันและระวังรักษา
ไมใหเกิดโรคติดตอหรือโรคติดเชื้อตาง ๆ ไดโดยงาย อวัยวะสืบพันธุชายมีความเกี่ยวของกับระบบ
การขับถายปสสาวะ เพราะวาการขับน้ําอสุจิออกจากรางกายตองผานทอปสสาวะดวย อวัยวะสืบพันธุ
ชายประกอบดวยสวนตาง ๆ ที่สําคัญดังนี้
(1.) ตอมอัณฑะ (Testis) มีลักษณะและรูปรางคลายไขไกฟองเล็ก ยาวประมาณ 4
เซนติเมตร กวางประมาณ 4 เซนติเมตร หนาประมาณ 2-3 เซนติเมตร หนักประมาณ 15-30 กรัม
อัณฑะขางซายจะใหญกวางขางขวาเล็กนอย ตามปกติจะมีอัณฑะอยู 2 ลูก
ภายในลูกอัณฑะมีหลอดเล็ก ๆ จํานวนมาก ขดเรียงอยูเปนตอน ๆ เรียกวา หลอด
สรางอสุจิ (Seminiferous Tabules) มีหนาที่ผลิตฮอรโมนเพศชายและตัวอสุจิ สวนดานหลังของตอม
อัณฑะ จะมีกลุมของหลอดเล็ก ๆ อีกมากมายขดไปมา เรียกวาหลอดเก็บตัวอสุจิ (Epididymis) เปนที่
เก็บเชื้ออสุจิชั่วคราว เพื่อใหเชื้ออสุจิเจริญเติบโตไดเต็มที
(2.) ตอมลูกหมาก (Prostate Gland) เปนตอมที่หุมอยูรอบทอปสสาวะสวนใน ตรง
ดานลางของกระเพาะปสสาวะ มีหนาที่สรางของเหลวซึ่งมีฤทธิ์เปนดางออน ๆ สงเขาไปในถุงเก็บ
อสุจิ เพื่อผสมกับน้ําเลี้ยงตัวอสุจิ ของเหลวนี้จะไปทําลายฤทธิ์กรดจากน้ําเมือกในชองคลอดเพศหญิง
ปองกันไมใหตัวอสุจิถูกทําลายดวยสภาพความเปนกรด เพื่อใหเกิดการปฏิสนธิขึ้นได
(3.) ลึงค หรือองคชาต (Penis) เปนสวนประกอบหนึ่งของอวัยวะสืบพันธุชาย ที่
แสดงใหเห็นวาเปนเพศชายอยางชัดเจน มีลักษณะยื่นออกมา สวนปลายสุดจะมีรูปรางคลายหมวก
เหล็กทหารสวมอยู ขนาดใหญกวาลําตัวลึงคเล็กนอย สวนนี้จะมีเสนประสาทมาหลอเลี้ยงมาก ทําให
มีความรูสึกไวตอการสัมผัส เมื่อมีความตองการทางเพศเกิดขึ้น จะทําใหลึงคเปลี่ยนจากนุมเปนแข็ง
เนื่องจากคั่งของเลือด ทําใหขนาดใหญขึ้น 1-2 เทาตัว ในระหวางการแข็งตัวของลึงคมีตอมเล็ก อยูใน
ทอปสสาวะ ผลิตน้ําเมือกเหนียว ๆ ซึ่งจะถูกขับออกมา เพื่อชวยในการหลอลื่นและยังทําใหตัวอสุจิ
ผานออกสูภายนอกไดสะดวกอีกดวย
 (4.) ทอพักตัวอสุจิ (Epididymis) มีลักษณะคลายรูปดวงจันทรครึ่งซีก หอยติดอยู
กับตอมอัณฑะสวนบนคอนขางจะใหญเรียกวา หัว (Head) จากหัวก็เปนตัว (Body) และเปนหาง(Tail) ทอ
นี้ประกอบดวยทอที่คดเคี้ยวเปนจํานวนมาก เมื่อตัวอสุจิถูกสรางขึ้นมาแลวจะถูกสงเขาทอนี้เพื่อเตรียม
ที่จะออกมาสูทอปสสาวะ
(5.) ทอนําตัวอสุจิ (Vas Deferens) เปนทอเล็ก ๆ ตอจากลูกอัณฑะ จะทําหนาที่พา
ตัวอสุจิและน้ําอสุจิใหไหลขึ้นไปตามหลอดและไหลเขาไปในถุงน้ําอสุจิ
(6.) ถุงอัณฑะ (Scrotum) เปนถุงที่หอหุมตอมอัณฑะไว ขณะที่ยังเปนตัวออนอยู ตอม
อัณฑะจะเจริญเติบโตในโพรงของชองทอง เมื่อครบกําหนดตอมอัณฑะจะคอย ๆ เคลื่อนลงลางจากชอง
ทองมากอยูในถุงอัณฑะที่บริเวณขาหนีบ ถุงอัณฑะมีลักษณะเปนผิวหนังบาง ๆ สีคล้ํา มีรอยยน มี
แนวกลางระหวางทวารหนักไปจนถึงลึงค จะมีกลามเนื้อ บาง ๆ กั้นถุงอัณฑะออกเปน 2 หอง ถุงอัณฑะ
จะหอยติดอยูกับกลามเนื้อชนิดหนึ่ง และจะหดตัวหรือหยอนตัว เมื่ออุณหภูมิของอากาศเปลี่ยนแปลง
เพื่อชวยรักษาอุณหภูมิใหเหมาะสมในการสรางอสุจิ และปองกันการกระเทือนจากภายนอก
1.1.1     การสรางเซลลสืบพันธุเพศชายและการฝนเปยก
เซลลสืบพันธุเพศชายหรือตัวอสุจิ (Sperm) จะถูกสรางขึ้นในทอผลิตอสุจิ
(Seminiferous Tubules) ตัวอสุจิมีขนาดเล็กมาก มีรูปรางลักษณะคลาย ๆ ลูกกบแรกเกิด ประกอบดวย
สวนหัวที่มีขนาดโต แลวคอยลงมาเปนสวนหางที่ยาวเรียว และสวนหางนี้จะใชในการแหวกวายมา
มีขนาดลําตัวยาวประมาณ 0.05 มิลลิเมตร มีขนาดเล็กกวาไขเพศหญิงหลายหมื่นเทา หลังจากตัวอสุจิ
ถูกสรางขึ้นในทอผลิตตัวอสุจิแลว จะฝงตัวอยูในทอพักตัวอสุจิจนกวาจะเจริญเต็มที่ ตอจากนั้นจะ
เคลื่อนที่ไปยังถุงเก็บตัวอสุจิ ในระยะนี้ตอมลูกหมากและตอมอื่น ๆ จะชวยกันผลิตของเหลวมาเลี้ยง
ตัวอสุจิ หากไมมีการระบายออกโดยมีเพศสัมพันธ รางกายจะระบายออก โดยใหน้ําอสุจิเคลื่อน
ออกมาตามทอปสสาวะเองในขณะนอนหลับ ซึ่งเปนการลดปริมาณน้ําอสุจิใหนอยลง โดยธรรมชาติ
และยังเปนวิธีหนึ่งที่ชวยลดความเครียดเกี่ยวกับอารมณทางเพศได เราเรียกวาการฝนเปยก (Wet
Dream) เปนปรากฎการณที่ชี้ใหเห็นวาวัยรุนชายนั้นบรรลุวุฒิภาวะทางเพศแลว และรางกายก็พรอม
ที่จะใหกําเนิดบุตรได้
1.1.2 สุขปฏิบัติเกี่ยวกับอวัยวะเพศชาย
1. อาบน้ําอยางนอยวันละ 2 ครั้ง ใชสบูชําระรางกายและอวัยวะเพศให
สะอาดแลวเช็ดใหแหง
2. สวมเสื้อผาที่สะอาด โดยเฉพาะกางเกงในไมคับและไมหลวมเกินไป
3. ไมใชสวมหรือขับถายที่ผิดสุขลักษณะ
4. ไมสําสอน หรือรวมประเวณีกับผูขายบริการทางเพศ
5. หากสงสัยวาเปนกามโรคควรไปปรึกษาแพทย
6. ไมควรใชยาหรือสารเคมีเพื่อกระตุนความรูสึกทางเพศ
7. อยาหมกหมุนหรือหักโหมเกี่ยวกับความสัมพันธทางเพศเกินไป ควรหา
กิจกรรมนันทนาการหรือเลนกีฬา
8. ระวังอยาใหอวัยวะเพศถูกกระทบกระแทกแรง ๆ
1.2 ระบบสืบพันธุของเพศหญิง
โครงสรางที่เกี่ยวขอ งกับอวัยวะเพศและก ารสืบพันธุของเพศหญิ ง
ประกอบดวยหลายสวนดวยกัน ในที่นี้จะกลาวถึงเฉพาะสวนที่สําคัญเทานั้น
(1.) ตอมรังไข (Ovary) เปนตอมสืบพันธุของเพศหญิง มีหนาที่ผลิตเซลลสืบพันธุ
ของเพศหญิงที่เรียกวาไข (Ovum) ตอมรังไขนี้มีอยูดวยกัน 2 ตอม คือ ขางขวาและขางซาย ซึ่งอยูใน
โพรงของอุงเชิงกราน มีรูปรางคอนขางกลมเล็กมีน้ําหนักประมาณ 2-3 กรัม นอกจากนี้ตอมรังไขจะ
หลั่งฮอรโมนเพศหญิงออกมาทําใหไขสุก และเกิดการตกไข
(2.) ทอรังไข (Pallopain Tubes) ภายหลังที่ไขหลุดออกจากสวนที่หอหุมแลว จะผาน
เขาสูทอรังไข ทอนี้ยาวประมาณ 6-5 เซนติเมตร ปลายขางหนึ่งมีลักษณะคลายกรวย ซึ่งอยูใกลกับ
รังไข สวนปลายอีกขางหนึ่งนั้นจะเรียวเล็กลงและไปติดกับมดลูก ภายในทอรังไขจะมีกลามเนื้อพิเศษ
ซึ่งบุดวยเยื่อที่มีขนและบีบรัดตัวอยูเสมอ ซึ่งทําหนาที่โบกพัดเอาไขที่สุกแลวเขาไปในทอรังไข คอย
การผสมพันธุจากตัวอสุจิของชาย และสงไปสูมดลูกตอไป
(3.) มดลูก (Uterus) มดลูกอยูในอุมเชิงกรานระหวางกระเพาะปสสาวะกับทวารหนัก
ปกติยาวประมาณ 7-8 เซนติเมตร กวางประมาณ 4 เซนติเมตร และหนาประมาณ 2 เซนติเมตร เปน
อวัยวะที่ประกอบดวยกลามเนื้อ และมีลักษณะภายในกลวง ซึ่งมีผนังหนาไขจะเคลื่อนตัวลงมาตาม
ทอรังไข เขาไปในโพรงมดลูก ถาไขไดผสมกับอสุจิแลวจะมาฝงตัวอยูในผนังของมดลูกที่หนาและมี
เลือดมาเลี้ยงเปนจํานวนมาก ไขจะเจริญเติบโตเปนตัวออนตรงบริเวณนี้ ภายหลังวัยหมดประจําเดือน
แลว มดลูกจะเล็กและเหี่ยวลง
(4.) ชองคลอด (Vagina) มีลักษณะเปนโพรงซึ่งมีความยาวประมาณ 8-10 เซนติเมตร
ชองคลอดประกอบดวยกลามเนื้อเรียบ สวนในสุดเปนสวนที่หุมอยูรอบปากมดลูก ภายในบุดวยเยื่อ
บาง ๆ ลักษณะเปนรอยยนสามารถยืดหดและขยายตัวไดมากเวลาคลอด ที่ชองคลอดนี้จะมี
เสนประสาทมาเลี้ยงจํานวนมาก โดยเฉพาะอยางยิ่งบริเวณรูเปดชองคลอด และชองคลอดยังทําหนาที่
เปนทางผานของเลือดประจําเดือนจากโพรงมดลูกออกจากรางกาย และเปนทางผานของตัวอสุจิจาก
เพศชายเพื่อไปผสมกับไขที่ทอรังไข
(5.) คลิสตอริส (Clitoris) ลักษณะเปนกอนเนื้อเล็ก ๆ ตั้งอยูบนสวนของแคมเล็ก
เปนเนื้อเยื่อที่ยึดหดได มีหลอดเลือดและเสนประสาท และไวตอความรูสึกทางเพศเชนเดียวกับลึงค
ของชาย
(6.) ตอมน้ําเมือก (Bartholin Gland) เปนตอมเล็ก ๆ อยู 2 ขางของชองคลอด ตอม
นี้ทําหนาที่หลั่งน้ําเมือกออกมา เพื่อใหชวยหลอลื่นชองคลอดในระหวางที่มีการรวมเพศ
(7.) ฝเย็บ (Perineum) อยูพื้นลางของอุงเชิงกรานที่กั้นอยูระหวางชองคลอดกับ
ทวารหนัก ขยายและยึดหดตัวได ประกอบดวยกลามเนื้อที่สําคัญ 3 มัด มีหนาที่ชวยเสริมสราง
กลามเนื้อชองคลอดใหแข็งแรง และปองกันชองคลอดหยอน ถาหากขาดแลวไมเย็บ จะทําใหมดลูก
ต่ําลงมาไดเมื่ออายุมากขึ้น
(8.) เตานม (Breast) มีอยู 2 เตา ซึ่งมีขนาดใกลเคียงกัน ตรงกลางของเตานมจะมีผิว
ที่ยื่นออกมาเรียกวา หัวนม เตานมแตละเตาจะประกอบขึ้นดวยกอนเนื้อหลายกอน กอนเนื้อแตละ
กอนจะประกอบดวยทอที่แตกแขนงไปมากมาย เตานมจะมีขนาดโตขึ้นเมื่อเขาสูวัยสาว เนื่องจากมี
เนื้อเยื่อเกี่ยวพันและไขมันเพิ่มขึ้น ขณะที่ตั้งครรภเตานมจะโตขึ้น เนื่องจากมีการเจริญเติบโตของตอม
น้ํานมและทอจํานวนมาก บริเวณเตานมนี้จะมีหลอดเลือดและเสนประสาทไปเลี้ยงอยูมาก จึงทําใหมี
ความไวตอการสัมผัส
1.2.1 ความรูเกี่ยวกับผลของการบรรลุวุฒิภาวะทางเพศหญิง
เมื่อเพศหญิงเจริญเติบโตเปนสาว ไมเฉพาะแตจะมีลักษณะของความเปน
หญิง ดวยการมีเตานมเจริญเติบโต และมีลักษณะเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ เกิดขึ้นเทานั้น การบรรลุ
วุฒิภาวะของเพศหญิงขึ้นอยูกับการมีประจําเดือนครั้งแรก และมีประจําเดือนทุก ๆ เดือน โดยเฉลี่ยจะ
เกิดขึ้นทุก ๆ 28 หรือ 30 วัน และการมีประจําเดือนแตละเดือนอาจะแบงออกไดเปนระยะดังนี้
1. ระยะทําลาย (Destructive Phase) เปนระยะที่มีเลือดออกมา เนื่องจากมี
การทําลายของเยื่อบุภายในของผนังมดลูก ระยะนี้จะใชเวลาประมาณ 3-7 วัน หรือเรียกวา จะมีเลือด
ระดูออกมาอยูประมาณ 3-7 วัน จํานวนเลือดที่ไหลออกมามีจํานวนไมแนนอนโดยทั่วไปจะมีปริมาณ
125 ลูกบาศกเซนติเมตร นอกจากเลือดที่ไหลออกมาแลวยังมีเศษของผนังมดลูกที่ถูกทําลายหลุดปน
ออกมาดวย ระยะทําลายนี้เริ่มแรกมักจะมีอาการทั้งทางรางกายและจิตใจ เชน ถายปสสาวะบอย มี
สิวขึ้นบนใบหนา เตานมจะโตและแข็ง มีอาการปวดศีรษะ เพลีย หงุดหงิด เปนตน
2. ระยะฟอลลิคูลา (Follicular Phase) ตอมพิทูอิทารีสวนหนา (Anterior
Lobe) หลั่งฮอรโมนชนิดหนึ่งออกมาและซึมเขากระแสเลือด แลวนําไปยังตอมรังไขจะทําใหไขซึ่งอยู
ภายในรังไขเจริญเติบโตและสุกระยะนี้กินเวลาประมาณ 9วัน และเมื่อรวมกับระยะที่มีเลือดระดูไหล
ออกมาในระยะทําลายจะกินเวลาประมาณ 14 วัน
3. ระยะลูเทียล (Luteal Phase) เปนระยะที่ไขสุกเต็มที่และจะหลุดออก
จากรังไข รังไขจะสรางฮอรโมนชนิดหนึ่งเพื่อกระตุนใหผนังมดลูกหนาและมีเลือดมาหลอเลี้ยงมาก
เพื่อรอรับไขที่จะถูกผสมพันธุ ถาไขไมไดรับการผสมพันธุฮอรโมนนี้จะลดลง ซึ่งเปนการเริ่มตน
ระยะทําลาย และจะมีเลือดระดูไหลออกมาใหม
 1.2.2 สุขปฏิบัติเกี่ยวกับอวัยวะสืบพันธุของเพศหญิง
1. อาบน้ําชําระลางกายใหสะอาดอยูเสมอ เวลาอาบน้ําควรทําความสะอาด
อวัยวะเพศเปนพิเศษ เชน ลาง เช็ดใหแหง โดยเฉพาะอยางยิ่งในชวงมีประจําเดือน ควรใชน้ําอุน
ชําระสวนที่เปอนเลือด เปนตน
2. หลังจากถายอุจจาระ ปสสาวะควรทําความสะอาดแลวเช็ดใหแหง
3. ควรสวมเสื้อที่สะอาด โดยเฉพาะอยางยิ่งกางเกงในตองสะอาด ไมคับไม
หลวมเกินไป และควรเปลี่ยนทุกวัน
4. รักนวลสงวนตัว ไมควรมีเพศสัมพันธกอนแตงงาน
5. ไมควรใชยากระตุนหรือสารเคมีตออวัยวะเพศ
6. การใชสวมเพื่อการขับถาย ควรคํานึงถึงความสะอาดและถูกสุขลักษณะ
7. ควรทํางานอดิเรก หรือออกกําลังกายเสมอเพื่อเบนความสนใจทางเพศ
8. ในยามที่มีประจําเดือนควรเตรียมผาอนามัยไวใหเพียงพอ และเปลี่ยนอยู
เสมออยาปลอยไวนาน
9. ในชวงมีประจําเดือนไมควรออกกําลังกายที่ผาดโผนและรุนแรง ควร
ออกกําลังกายเพียงเบา ๆ และพักผอนใหเพียงพอ
10. ควรจดบันทึกการมีประจําเดือนไว ถาประจําเดือนมาชาหรือเร็วบาง
เล็กนอยถือวาปกติ ถาประจําเดือนมาชาหรือเร็วกวาปกติ 7-8 วันขึ้นไป ควรไปปรึกษาแพทย
11. ในชวงมีประจําเดือน ถามีอาการปวดทองควรใชกระเปาน้ํารอนมาวาง
ที่ทองนอย เพื่อใหความอบอุน และอาจรับประทานยาแกปวดไดบาง
12. ถามีอาการผิดปกติทางรางกายในชวงมีประจําเดือน เชน ปวดทองมาก
หรือมีเลือดไหลออกมา ควรรีบไปปรึกษาแพทยทันที
13. ระวังอยาใหอวัยวะเพศกระทบกระแทกแรง ๆ
14. ถาหากมีการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติของอวัยวะเพศ ควรไปปรึกษาแพทย








     
                


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น